มีมือเท้าไว้บูชาพระรัตนตรัย
ขออนุญาต
นำคำกล่าวของท่านอ.สุจินต์ (มาแบ่งปันกันนะคะ)
ขณะที่ท่าน อ.นั่งพับดอกบัว ณ เจดีย์รุวัน เวลิสยะ ท่านได้กล่าวสั้นๆ ว่า
มีมือเท้าไว้บูชาพระรัตนตรัย
ข้าพเจ้าได้ยิน แล้วซาบซึ้งใจมาก
ให้ระลึกเตือนตนว่า ขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ชีวิตที่ผ่านมาจนกระทั่งขณะนี้ มีมือมีเท้าไว้ทำสิ่งใดไปบ้าง ยังไม่ทำสิ่งใดบ้าง ที่สำคัญควรรู้ว่า สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ (สมควรแก่ธรรม)
กราบอนุโมทนาค่ะ
แม้ว่าจะไม่ได้ยินท่านอาจารย์กล่าว ณ เวลานั้น แต่จากการบอกเล่า ก็ทำให้เกิดความปีติซาบซึ้งในความหมายของคำกล่าวนั้นครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นถ้อยคำที่ไพเราะและเป็นเครื่องเตือนใจได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
ขอเชิญคลิกอ่าน (ทบทวน) เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 313
อรรถกถาอสัปปุริสทานสูตร บทว่า สหตฺถา เทติ ความว่า ไม่ใช้มือของคนอื่นให้ตามคำสั่ง ให้ด้วยมือของ ตนเองเท่านั้น
ด้วยคิดว่า ชื่อว่า เวลาที่เราท่องเที่ยวไปในสงสารอันไม่มีเบื้องต้นและ เบื้องปลายแล้ว ได้ใช้มือและเท้านั้นไม่มีประมาณเลย เราจักทำความหลุดพ้นไปจาก วัฏฏะ ความออกไปจากภพดังนี้.
ในสังสารวัฏฏ์ที่ผ่านมา เราใช้มือและเท้าไม่มีประมาณคือทำสิ่งต่างๆ มากมาย ทำ เพื่อเรา เพื่อคนอื่นอันไม่ประกอบด้วยประโยชน์คือเป็นอกุศล เช่น ทานข้าว ทำกิจธุระ ต่างๆ มือและเท้านั้นจึงใช้ไปในทางอกุศล ส่วนผู้ที่มีความเข้าใจธรรมเมื่อปัญญาเจริญ ขึ้น มือและเท้าที่มีอยู่จึงเป็นไปในการเจริญกุศลทุกๆ ประการเท่าที่ทำได้ คนที่มีมือ มี เท้าแต่ทำอกุศล ไม่ใช้มือและเท้าเจริญกุศล ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่มีมือ มีเท้าเพราะ ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรในชีวิตคือเจริญกุศลธรรม จิตที่ดี ที่ประกอบด้วยปัญญา มือและเท้าจึงน้อมไปในทางกุศลธรรม ชื่อว่ามีมือและเท้าที่แท้จริง อันสามารถออกจาก วัฏฏะเพราะอาศัยมือและเท้ในการเจริญกุศล มีการบูชาพระรัตนตรัย เป็นต้นครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์