กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นเรื่องของพระภิกษุเท่านั้นหรือ

 
natthaset
วันที่  11 เม.ย. 2553
หมายเลข  15869
อ่าน  1,249

กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีปรกติพิจารณา, เห็นกายในกายอยู่นั้นเป็นอย่างไรเล่า?

ในหลายคำสอนและข้อปฏิบัติที่ลึกซึ่ง พระพุทธองค์เน้นเรื่องภิกษุทั้งหลาย เป็นส่วนมาก ผมอ่านแล้วผมไม่ใช่พระภิกษุรู้สึกว่า ผมไม่ควรทำ และปฏิบัติตามไม่น่าจะได้ เพราะเป็นธรรมหรือข้อปฏิบัติของพระ ไม่ใช่ฆารวาสธรรม เป็นของลึกซึ่ง ยากเกินไปหรือเปล่า ทำไมพระพุทธองค์ สอนเน้นแต่พระภิกษุสงฆ์เท่านั้นครับ

คนที่ปฏิบัติได้ต้องเป็นพระภิกษุเท่านั้นหรือครับ หรืออาจเพราะฆารวาสทำแล้วจะได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ ทำไม่เสร็จครับ (เพราะสิ่งแวดล้อมไม่อำนวย ไม่มีกัลยาณมิตร)

แต่อภิธรรมที่อ.สุจินต์ อธิบาย นำมาสอน เป็นธรรมลึกซึ่งเกินข้อปฏิบัติหลายข้อนัก มันเหมาะควรสำคัญฆารวาสอย่างผมด้วยหรือครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 11 เม.ย. 2553

ขอเรียนว่า คำว่า " ภิกษุ " ตามหลักคำสอน มีหลายความหมาย เช่น หมายถึงบรรพชิตบ้าง หมายถึงพระภิกษุสงฆ์บ้าง หมายถึงพระอริยะบ้าง หมายถึงผู้ที่เห็นภัยในวัฏฏะบ้าง ส่วนในสติปัฏฐานสูตร คำว่าภิกษุ ท่านหมายถึงผู้เห็นภัยดังนั้นผู้ที่ศึกษาอบรมเจริญสติปัฏฐาน ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในเพศใด ก็เรียกว่าภิกษุได้เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น สรุปคือพุทธบริษัททั้งสี่อบรมเจริญสติปัฏฐานได้ แต่ในบางแห่งท่านอธิบายว่า ที่ตรัสเรียกว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย " เพราะพระภิกษุเป็นหัวหน้าพุทธบริษัท... แต่ในที่นั้นหมายถึง พุทธบริษัททั้งสี่ สำหรับการศึกษาพระธรรมคำสอนที่ละเอียดลึกซึ้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือบรรพชิตก็ควรศึกษาทั้งนั้น ถ้าเข้าใจได้ย่อมเป็นการดีครับ

ขอเชิญคลิกอ่านความหมายภิกษุเพิ่มเติมที่ ความหมายภิกษุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
natthaset
วันที่ 11 เม.ย. 2553

นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา

"ในสติปัฏฐานสูตร คำว่าภิกษุ ท่านหมายถึงผู้เห็นภัย"

ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ups
วันที่ 11 เม.ย. 2553

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 12 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผิน
วันที่ 13 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 13 เม.ย. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สติปัฏฐานคือการอบรมปัญญาเพื่อระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้

ที่เป็นไปในกาย เวทนา จิต ธรรม เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องของปัญญา ปัญญาไม่ได้

จำกัดเพศ คฤหัสถ์ก็สามารถอบรมเจริญสติปัฏฐานได้เพราะสติปัฏฐานเป็นการรู้สภาพ

ธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ไม่ว่าเพศใด สภาพธรรมก็ปรากฎกับทุกคน ขาดแต่เพียงปัญญา

ที่จะไปรู้ความจริงในขณะที่สภาพธรรมปรากฏเท่านั้นครับ สติปัฏฐานพระพุทธองค์จึง

ทรงแสดงไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความหมดจดวิเศษ

ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อความก้าวล่วงซึ่งความโศกและความร่ำไร เพื่ออัสดงค์ดับไป

แห่งทุกข์และโทมนัสเพื่อบรรลุญายธรรม เ พื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้งทางนี้คือสติ-

ปัฏฐาน

สำหรับคำถามที่ว่า แต่อภิธรรมที่อ.สุจินต์ อธิบาย นำมาสอน เป็นธรรมลึกซึ่งเกินข้อปฏิบัติหลายข้อนัก มันเหมาะควรสำคัญฆราวาสอย่างผมด้วยหรือครับ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าพระอภิธรรมคือสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ เช่น เห็น เสียง มีจริงเป็นธรรม เป็นอภิธรรม ปัญญาต้องรู้ความจริงที่เป็นอภิธรรมคือรู้ว่าเป้นธรรมเพื่อที่จะละ

ความยึดถือว่าเป็นเรา เป้นสัตว์ บุคคล การอบรมปัญญาเพื่อรู้ความจริงเช่นนี้เป็นเรื่องที่

ยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางรู้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีพระอริยสาวกที่

ท่านได้รู้มาแล้ว แต่เพราะท่านอาศัยการสะสมปัญญามาทีละเล็กละน้อยและอาศัยระยะ

เวลายาวนาน วันหนึ่งก็สามารถรู้สามารถเข้าใจได้ครับ ท่านก็เริ่มจากความไม่รู้อย่าง

เช่นเรามาก่อน เพราะฉะนั้นสำคัญที่เหตุคือเริ่มจากความเข้าใจถูกเป็นเบื้องต้นทีละ-

น้อยในเรื่องของการเข้าใจสภาพธรรม เริ่มจากฟังให้เข้าใจ วันหนึ่งก็สามารถเข้าใจและ

ปฏิบัติตามได้ครับ ขออนุโมทนา อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ