พระอรหันต์ ไม่มีศรัทธาจริงหรือ
"พระอรหันต์ มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาบริสุทธิ์ ไม่จำเป็นต้องใช้ศรัทธาในการดำรงชีวิตอีกต่อไป"ข้อความนี้เป็นจริงใช่ไหมครับ
เคยได้ยินมาว่า ศรัทธาไม่ประกอบด้วยปัญญา ก็โง่งมงาย ปัญญา ไม่ประกอบด้วยศรัทธาก็อันตรายยิ่ง
ศรัทธา กับ ปัญญา เหมือนไก่กับไข่ไม่รู้อะไรเกิดก่อนกัน ใช่ไหมครับ
อันดับแรก ควรที่จะได้ศึกษาพิจารณาว่า ศรัทธา คือ อะไร และ ปัญญา คืออะไรสภาพธรรมทั้งสองประการนี้เกิดกับจิตประเภทใดบ้าง ศรัทธาเป็นสภาพธรรมที่ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว เป็นเจตสิกฝ่ายดี (โสภณเจตสิก) ที่เกิดร่วมกับโสภณจิตทุกประเภท เป็นไปในทาน ศีล และ ภาวนา เมื่อศรัทธาเกิดขึ้นอกุศลธรรมประการต่างๆ จะเกิดร่วมไม่ได้เลย เพราะศรัทธากับอกุศล เป็นธรรมคนละประเภทกัน ไม่เกิดร่วมกัน ปัญญา หมายถึงความเข้าใจถูกเห็นถูก ปัญญา เป็นเจตสิกฝ่ายดี แต่ไม่เกิดกับโสภณจิตทุกประเภท ไม่เหมือนกับศรัทธาที่เกิดร่วมกับโสภณจิตทุกประเภท โสภณจิตประเภทใดที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยก็จะไม่ปราศจากศรัทธาเลย แต่โสภณจิตบางประเภทมีศรัทธาเกิดร่วมด้วยโดยที่ไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยก็ได้ พระอรหันต์ เป็นผู้ห่างไกลจากกิเลส เป็นผู้ดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย จิตของพระอรหันต์มีเพียง ๒ ชาติเท่านั้น คือ ชาติวิบาก กับ ชาติกิริยา ยกตัวอย่าง จิตชาติวิบากของพระอรหันต์ กล่าวคือ ภวังคจิต (จิตที่ดำรงภพชาติ) ซึ่งเป็นจิตประเภทเดียวกันกับปฏิสนธิจิต เป็นผลของกุศลกรรมที่ประกอบด้วยเหตุ ๓ คื่อ อโลภเหตุ อโทสเหตุ และอโมหเหตุ มีปัญญาเกิดร่วมด้วย เมื่อมีปัญญาเกิดร่วมด้วยก็ต้องมีศรัทธาเกิดร่วมด้วยเช่นกัน แต่เป็นชาติวิบาก,จิตชาติวิบากมีหลายประเภท บางประเภทไม่มีเหตุเกิดร่วมด้วย บางประเภทก็มีเหตุเกิดร่วมด้วย จึงค่อยๆ ศึกษาในรายละเอียดต่อไป, จิตชาติกิริยาของพระอรหันต์ ก็มีทั้งที่ไม่ประกอบด้วยเหตุ และประกอบด้วยเหตุ สำหรับ มหากิริยาจิตของพระอรหันต์บางประเภทก็มีปัญญาเกิดร่วมด้วย บางประเภทก็ไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย ที่สำคัญมหา-กิริยาจิตของพระอหรันต์จะมีศรัทธาเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ศรัทธาของปุถุชนไม่แน่นอน ไม่ประกอบด้วยปัญญาก็ได้ แต่ศรัทธาของ
พระโสดาบันที่มีต่อพระรัตนตรัยมั่นคงแน่นอน และมีมากขึ้นตามลำดับขั้นค่ะ
เช่น ศรัทธาของพระโสดาบันที่เห็นพระคุณของพระพุทธเจ้า ก็ไม่เท่าศรัทธา
ของพระสกทาคามี ศรัทธาของพระสกทาคามีก็ไม่เท่าศรัทธาของพระอนาคามี
ศรัทธาของพระอนาคามีก็ไม่เท่าศรัทธาของพระอรหันต์ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
โดยทั่วไปเราเข้าใจกันว่า ศรัทธาคือความเชื่อ เมื่อเชื่อในสิ่งใด ในแนวคิดอะไรก็คือมี
ศรัทธาในสิ่งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ศรัทธาในพระพุทธศาสนามีความหมายที่
ลึกซึ้งมากกว่านั้น ศรัทธาเป็นสภาพธรรมฝ่ายดีจะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย และขณะใดที่
กุศลจิตเกิดก็ต้องมีศรัทธาเกิดร่วมด้วยเสมอ เพราะฉะนั้นขณะที่มีความเชื่อในแนวคิด
ปรัชญาหรือในหลักการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่ามีศรัทธาในเรื่องนั้นเพราะ
ขณะนั้นจิตเป็นอกุศลคือพอใจติดข้องในความเห็นนั้นคือเป็นโลภะ ซึ่งศรัทธาจะไม่เกิด
กับอกุศลจิตเลย ในทำนองเดียวกัน หากมีศรัทธาในหนทางที่ผิด ในความเชื่อที่ผิด จะ
กล่าวว่ามีศรัทธาแต่ไม่มีปัญญาก็ไม่ได้ครับ เพราะขณะนั้นมีความเชื่อ พอใจในความ
เห็นที่ผิดจึงเป็นโลภะที่ประกอบด้วยความเห็นผิด เป็นอกุศลจิต ศรัทธาเป็นสภาพธรรม
ฝ่ายดีจะไม่เกิดกับอกุศลจิต จึงไม่อาจกล่าวได้เลยว่าขณะนั้นมีศรัทธาแต่ขาดปัญญา
แต่ขณะใดที่มีความเชิ่อในหนทางที่ถูกอันเกิดจากความเข้าใจ ขณะนั้นมีศรัทธา เพราะ
เป็นจิตที่เป็นกุศล เมื่อกุศลเกิดย่อมมีศรัทธาเกิดร่วมด้วยเสมอครับ อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ในอดีตมีผู้เอาดอกใม้เพียงดอกเดียวบ้าง สี่ดอกบ้าง และพวงมาลัยบูชาขึ้นสู่สถูปแล้วด้วยศรัทธาอันแรงกล้าในพระสำมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกายแตกแล้วได้เกิดบนสวรรค์ มีวิมานสวยงามรัศมีรุ้งโรจน์ และได้อัตภาพพันหนึ่งแห่งอายุกัปเป็นที่สุด ไม่รู้จักทุคติถึง ๓๐ กัป ศรัทธาในพระพุทธเจ้า เมื่อได้กระทำแล้ว จึงเป็นคุณอันใหญ่ เป็นบุณอันโอฬาร ได้ดีแล้วหนอ
ความคิดเห็นที่6 น่าสนใจมากครับ
ศรัทธาเกิดได้เฉพาะกุศลจิตเท่านั้น จะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย
แล้วความเชื่อผิดๆ น่าจะเรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ มิจฉาศรัทธา ไช่ไหมครับ?
ขอบคุณ และอนุโทนาด้วครับ
เรียนความเห็นที่ 9
ความเชื่อที่ผิดที่ไม่ถูกต้อง ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นโลภมูลจิตที่ประกอบ
ด้วยความเห็นผิด นั่นก็คือ มิจฉาทิฏฐินั่นเองครับ ไม่ใช่มิจฉาศรัทธา