ฟัง คิด พิจารณา...ไม่ลืมว่าเป็นธรรมะ.

 
พุทธรักษา
วันที่  28 เม.ย. 2553
หมายเลข  15981
อ่าน  1,182

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ข้อความบางตอนจากการสนทนาธรรมณ อาคารมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๒ถอดเทปบันทึกเสียงโดย คุณสงวน สุจริตกุล

ในการเริ่มต้นศึกษา "พระสัทธรรม"ก็คือ ฟังสิ่งที่ "ผู้รู้" ตรัสรู้

ผู้ที่พูดให้ฟังนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามผู้พูด จะรู้หรือไม่รู้ผู้ฟัง จะรู้ว่า สิ่งที่ได้ฟังนั้น ถูกหรือไม่ก็ควรพิจารณาว่า ถ้าพูดถูก ก็หมายความว่า ผู้พูด รู้ตามที่พูด

ถ้าผู้พูด พูดเหมือนกับว่ารู้ แต่เมื่อฟังไปเรื่อยๆ ก็ย่อมรู้ได้ว่า ผู้พูดไม่ได้รู้จริงๆ เช่น ถ้าบอกว่า "ขณะนี้ เป็น ธรรมะ พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมะ" แล้วผู้ฟังจะรู้อะไร ก็ต้อง "รู้ธรรมะ" ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้

ถ้าสิ่งที่มีจริง แต่ไม่ได้กำลังปรากฏ ในขณะนี้หรือถ้าสิ่งที่มีจริง ปรากฏแล้ว ดับไปหมดแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะ "รู้ลักษณะของสิ่งนั้น" ได้ เพราะฉะนั้น "ความรู้" จะมีได้ ก็ต่อเมื่อมีสิ่งที่กำลังปรากฏ

การพูดในสิ่งที่จริง ต้อง "รู้เจตนา" ด้วยว่า พูดทำไม พูดให้เกิดความเห็นถูก หรือว่า พูดให้เข้าใจผิด จะผิด หรือ ถูก ก็ไม่ใช่ใครเพราะเป็น "ธรรมะ"

"ธรรมะ" ที่เป็นความเห็นผิด ก็มี "ธรรมะ"ที่เป็นความเห็นถูก ก็มี เพราะฉะนั้น การพูดเพื่อให้เกิดความเห็นถูกว่า สิ่งใดที่ผิดไปจากความเป็นจริง ก็ต้องผิด จะเปลี่ยนสิ่งที่ผิด ให้เป็นถูกนั้น เปลี่ยนไม่ได้ จะเปลี่ยนสิ่งที่ถูก ให้เป็นผิด ก็เปลี่ยนไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็น "ธรรมะ"

ขออนุโมทนา

พระสัทธรรม คือ สัจจธรรม หรือ ความจริง ความจริง ก็คือ ความจริงความจริง เป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยน ไม่แปรผัน ไม่ว่าจะรู้ หรือ ไม่รู้ ก็ตาม ความจริง ก็ต้องเป็น ความจริง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 28 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 28 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
aiatien
วันที่ 28 เม.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Komsan
วันที่ 28 เม.ย. 2553

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ