ความลบหลู่ การตีเสมอ ความโอ้อวด
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 446
ข้อความบางตอนจาก ...
ความลบหลู่ อันการทำสิ่งที่เขาทำดีแล้วให้พินาศไป ไม่ว่าของคฤหัสถ์หรือ ของบรรพชิต (มีลักษณะเหมือนกัน) อธิบายว่า ฝ่ายคฤหัสถ์ (เดิมที) เป็นคนขัดสน (ครั้นแล้ว) ผู้มีกรุณาลางคนได้ยก (เขา) ไว้ในฐานะ ที่สูงส่ง ต่อมา (เขากลับกล่าวว่า) ท่านทำอะไรให้ข้าพเจ้า ชื่อว่า ทำลายความดีที่คนผู้กรุณานั้นทำไว้แล้วให้พินาศไป ฝ่ายบรรพชิตแล จำเดิมแต่สมัยเป็นสามเณรน้อย อันอาจารย์หรืออุปัชฌาย์ท่านใดท่านหนึ่ง อนุเคราะห์ด้วยปัจจัย ๔ และด้วยอุทเทศและปริปุจฉา ให้สำเหนียกความเป็นผู้ฉลาดในปกรณ์ เป็นต้น ด้วยธรรมกถา สมัยต่อมา อันพระราชาและราชมหาอำมาตย์ เป็นต้น สักการะเคารพแล้ว (เธอ) กลับขาดความยำเกรงในอาจารย์และอุปัชฌาย์เที่ยวไป อันอาจารย์เป็นต้นกล่าวว่า ผู้นี้ สมัยเขาเป็นเด็ก เราทั้งหลายช่วยอนุเคราะห์และส่งเสริม ให้ก้าวหน้าอย่างนี้ ก็แต่ว่าบัดนี้ เขาไม่น่ารักเสียแล้ว ก็กล่าว (ตอบ) ว่า พวกท่านทำอะไรให้ผม ดังนี้ ชื่อว่า ทำลายความดีที่อุปัชฌาย์และอาจารย์เหล่านั้น ทำแล้วให้พินาศไป ความลบหลู่ที่ทำความดีที่ท่านทำไว้แล้วให้พินาศไปของบรรพชิตนั้นย่อมเกิดขึ้นทำร้ายจิต คือไม่ให้จิตผ่องใส เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า เป็น ธรรมเครื่องเศร้าหมองแห่งจิต ดังนี้. เหมือนอย่างว่า ความลบหลู่นี้เป็นฉันใด
การตีเสมอ (ซึ่งได้แก่) การถือเป็นคู่แข่ง ก็ฉันนั้น เกิดขึ้นลามไปอ้างถึงบุคคลแม้เป็นพหูสูต โดยนัยเป็นต้นว่า ท่านผู้เป็นพหูสูตเช่นนี้ ยังมีคติไม่แน่นอน (แล้ว) ท่านกับผมจะมี อะไรวิเศษเล่า ความโอ้อวด เกิดขึ้นโดย (ทำให้) เป็นคนคุยโต จริงอยู่ คนคุยโตย่อมเป็นเหมือนปลาอานนท์.เล่ากันว่า ปลาอานนท์ (ชอบ) . เอาหางอวดปลา (พวกอื่นและ) เอาศีรษะอวดงู ให้ (ปลาและงูเหล่านั้น) รู้ว่าเราเป็นเช่นกับพวกท่าน บุคคลผู้คุยโต ก็ เช่นนั้นเหมือนกัน เข้าไปหานักพระสูตรหรือนักพระอภิธรรมใดๆ ย่อมกล่าวกะท่านนั้นๆ อย่างนี้ว่า ผมประพฤติประโยชน์เพื่อท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายต้องอนุเคราะห์ผม ผมจะไม่ทิ้งพวกท่านหรอก ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้แลนักพระสูตรและนักอภิธรรมเหล่านั้น ก็จักสำคัญ (เธอ) ว่า ผู้นี้มีความเคารพยำเกรงในเจ้าทั้งหลาย ความโอ้อวดนี้ แล
อนึ่ง ความ แข็งดีนี้เป็นฉันใดความถือตัวก็ฉันนั้น เป็นไปด้วยอำนาจความพองตัวแห่งจิต เพราะอาศัยชาติ (กำเนิด) เป็นต้น มานะที่เป็นไปด้วย อำนาจ ความพองตัวยิ่งแห่งจิต ชื่อว่า อติมานะ
โทษของ ความลบหลู่ การตีเสมอ ความโอ้อวด ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้อย่างไรหรือเปล่าครับ
ขอขอบพระคุณ