หน้าที่ของแต่ละคน
วันเสาร์ที่ ๑ พ.ค ๒๕๕๓ ได้มีโอกาสร่วมสนทนากับท่านอาจารย์ที่บ้านคุณหมอหนุ่ม
ข้อความตอนหนึ่งท่านอาจารย์กล่าวว่าท่านเองก็มีหน้าที่ที่จะสอนให้คนเป็นคนดี และ การให้คนได้เข้าใจธรรมที่ถูกต้อง หน้าที่ของท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ...มีแต่การให้...การให้ที่มีอานิสงฆ์สูงสุดก็คือ การให้คนได้เข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง แล้วเราล่ะ หน้าที่ของเราคือ การเป็นคนดี ขณะที่เป็นคนดีก็ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือประเทศชาติแล้ว ยิ่งได้มีโอกาสได้อบรมเจริญความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องนั้นเป็นปํญญาและปัญญาเท่านั้นที่จะรักษาใจไม่ให้ตกไปในฝ่ายอกุศล ขณะโกรธมีประโยชน์ไหม ขณะคิดตรึกไปถึงสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เมตตา การให้ แทนอกุศล ปัญญาที่เข้าใจธรรมไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร สิ่งที่กำลังเผชิญหน้าก็ไม่พ้นไปจากการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การกระทบสัมผัสและการคิดนึก ปัญญาที่เข้าใจธรรมว่า จิตแต่ละขณะเกิดแล้วดับไปขณะนั้นเป็นกุศล ขณะเป็นกุศลขณะนั้นอกุศลไม่เกิด
...ขออนุโมทนาค่ะ...
หน้าที่ของเราคือการเป็นคนดี ขณะที่เป็นคนดีก็ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือประเทศชาติแล้ว
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาในความเป็นผู้มั่งคงและผู้ตรง ของท่านอาจารย์ ที่ได้ทำหน้าทีสืบทอดพระธรรมคำสอน โดยเพียงอนุโมทนาด้วยเมื่อผู้ฟังมีความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง
ขออนุโมทนาครับ
การเป็นคนดีคือขณะที่กุศลจิตเกิด ไม่ใช่ตัวเราที่ต้องการจะเป็นคนดี มิฉะนั้นก็จะเป็นเราที่เป็นคนดี ซึ่งอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ว่าตอนนี้เป็นคนดีแล้วเพราะปัญญาขั้นฟังยังไม่สามารถรู้ว่าขณะใดเป็นกุศลขณะใดเป็นอกุศลจริงๆ หากเป็นเราที่จะดี ดีเท่าไรก็ไม่พอ เป็นข้อความที่เตือนได้เป็นอย่างดีครับ
ดีที่สุดคือฟังธรรมให้เข้าใจ ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้นๆ ขณะที่เข้าใจ ขณะนั้นเป็นคนดีเพราะปัญญาเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น เพราะเป็นโสภณเจตสิก ท่านอ.สุจินต์เตือนเสมอๆ ว่าฟังธรรมเพื่อเข้าใจธรรมที่ได้ยินได้ฟัง เท่านั้นจริงๆ