การลาสิกขาของภิกษุ
[เล่มที่ 1] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๔๒๔
ภิกษุบอกคืนสิกขาในสำนักเทวดา สิกขาย่อมไม่เป็นอันบอกคืน ภิกษุบอกคืนสิกขาในสำนักสัตว์ดิรัจฉาน สิกขาย่อมไม่เป็นอันบอกคืน ภิกษุบอกคืนสิกขาในสำนักแห่งชนชาติมิลักขะ ด้วยภาษาชนชาติอริยกะ ถ้าเขาไม่เข้าใจ สิกขาย่อมไม่เป็นอันบอกคืน ภิกษุบอกคืนสิกขาในสำนักแห่งชนชาติอริยกะ ด้วยภาษาชนชาติมิลักขะ ถ้าเขาไม่เข้าใจ สิกขา ย่อมไม่เป็นอันบอกคืน ภิกษุบอกคืนสิกขา โดยกล่าวเล่น สิกขาย่อมไม่เป็นอันบอกคืน
ข้อความในอรรถกถาตอนหนึ่งมีว่า อนึ่ง ถ้าว่าภิกษุผู้ถูกความไม่เพลินใจบีบคั้น ระแวงสงสัยภิกษุทั้งหลายผู้คุ้นเคยกันกล่าวว่า พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ ตะโกนเสียงดังด้วยหวังว่า ใครๆ จงรู้ ถ้าว่า มีคนทำงานอยู่ในป่า หรือบุรุษคนอื่นผู้รู้ลัทธิศาสนา ยืนอยู่ในที่ไม่ไกล ได้ยินเสียงของภิกษุนั้น ก็เข้าใจว่า สมณะผู้กระสันรูปนี้ ปรารถนาความเป็นคฤหัสถ์เคลื่อนจากศาสนาแล้ว ดังนี้ สิกขาย่อมเป็นอันบอกลาแท้
ถ้ากล่าวให้ฆราวาสที่เป็นเพื่อนฟังแต่เขายังคิดว่าเราเป็นภิกษุอยู่ แบบนี้ ถือว่าลาสิกขารึป่าวครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
การลาสิกขาสำเร็จ จากเพศพระภิกษุนั้น เมื่อภิกษุรูปนั้น มีความประสงค์ที่จะไม่เป็นพระภิกษุอีกต่อไป ไม่ประสงค์ที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยบัญญัติหรือสิกขาบทต่างๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อีกต่อไป ก็กล่าวคำที่แสดงความเป็นผู้ที่จะไม่เป็นพระภิกษุอีกต่อไป กับบุคคลผู้ที่ฟังรู้เรื่อง
ดังนั้น เจตนาที่จะลาสิกขาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และชีวิตประจำวันของเพศบรรพชิต จะต้องเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสจริงๆ สิ่งที่สำคัญ ก็จะต้องได้ฟังพระธรรมวินัยให้เข้าใจ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...