อภิสังขาร ๓
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 171
สังคีติสูตร
อภิสังขาร ๓
๑. ปุญญาภิสังขาร อภิสังขาร คือ บุญ
๒. อปุญญาภิสังขาร อภิสังขาร คือ บาป
๓. อเนญชาภิสังขาร อภิสังขาร คือ อเนญชา.
คำว่า ตโย สงฺขารา มีคำนิยามว่า
ชื่อว่า สังขาร เพราะปรุงขึ้น คือทำให้เป็นกลุ่มขึ้น ซึ่งธรรมที่เกิดร่วมกัน และธรรมที่มีผลในกาลต่อไป
ชื่อว่า อภิสังขาร เพราะปรุงขึ้นอย่างยิ่ง อภิสังขาร คือ บุญ
ชื่อว่า ปุญญาภิสังขาร
คำว่า ปุญญาภิสังขารนั้น เป็นชื่อของมหาจิตเจตนา อันเป็นกามาวจรกุศล ๘ ดวง และ เจตนาอันเป็นรูปาวจรกุศล ๕ ดวง ที่ท่านกล่าวไว้อย่างนี้ว่า
"บรรดาอภิสังขารเหล่านั้น ปุญญาภิสังขารคืออะไร
คือ กุศลเจตนา เป็นกามาวจร รูปาวจร สำเร็จด้วยทาน สำเร็จด้วยศีล สำเร็จด้วยภาวนา"
บรรดาเจตนาเหล่านั้น เฉพาะเจตนา ๘ ดวง สำเร็จด้วยทาน สำเร็จด้วยศีล ทั้ง ๓ ดวง สำเร็จด้วยภาวนา ฯลฯ อภิสังขารนั้นด้วย มิใช่บุญ (เป็นบาป) ด้วย ดังนั้น จึงชื่อว่า อปุญญาภิสังขาร (อภิสังขารอันเป็นบาป) .
คำว่า อปุญญาภิสังขาร นี้ เป็นชื่อของเจตนา ที่สัมปยุตด้วยอกุศลจิต สมดังที่ท่าน กล่าวไว้ว่า "บรรดาอภิสังขารเหล่านั้น อปุญญาภิสังขารคืออะไร
คือ อกุศลเจตนาที่เป็นกามาวจร นี้เรียกว่า อปุญญาภิสังขาร"
ที่ชื่อว่า อาเนญชาภิสังขาร เพราะปรุงขึ้นอย่างยิ่ง ซึ่งอรูปนั่นเองที่เป็นวิบาก ไม่หวั่นไหว ไม่สั่นคลอน สงบ
คำว่า อาเนญชาติสังขาร นี้ เป็นชื่อของกุศลเจตนาอันเป็นอรูปาวจร ๔ ดวง สมดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า "บรรดาอภิสังขารเหล่านั้น อาเนญชาภิสังขารคืออะไร
คือกุศลเจตนา อันเป็นอรูปาวจร นี้เรียกว่า อาเนญชาภิสังขาร"
ที่มา ... สังคีติสูตร เรื่อง การสังคายนาหลักธรรม