ปุถุชนผู้เดินทางไกล
ทุกๆ คนกำลังเดินทางอยู่ จากชาตินี้ไปสู่ชาติหน้า เมื่อไรที่สิ้นสุดการเดินทางของชาตินี้ ก็เพราะกรรมใดกรรมหนึ่งในอดีตให้ผลตายจากชาตินี้ไปปฏิสนธิในภพใหม่ชาติใหม่...... จากชาติใหม่ไปสู่ชาติต่อๆ ไปไม่สิ้นสุดการเดินทาง และจะไม่ถึงที่สุดของการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ได้โดยไม่อบรมเจริญปัญญา รู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง ขัดเกลากิเลสจนกว่ากิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทเป็นพระอรหันต์ ท่านไม่ต้องเดินทางอีกต่อไป เพราะท่านรู้แจ้งโลกถึงที่สุดโลกได้แล้ว และการที่จะถึงที่สุดโลกได้ ก็ไม่ใช่ด้วยการเดินทาง แต่ด้วยการอบรมเจริญสติปัฏฐาน และการอบรมเจริญกุศลทุกประการ ไม่ว่ากุศลจะเล็กน้อยเท่าไรก็ไม่ควรละเลย ค่อยๆ สะสมไว้เป็นอุปนิสัย เพราะกุศลแม้เพียงเล็กน้อยจะไม่ให้ผลนั้นไม่มี เพราะอวิชชาคือความไม่รู้เป็นภัยใหญ่เป็นเหตุให้กระทำกรรมชั่วบ้างดีบ้าง ทำให้ต้องเดินทางไกลอยู่ในสังสารวัฏฏ์ เกิดในทุคติภูมิบ้าง ในสุคติภูมิบ้างซึ่งเป็นเพียงที่พักชั่วคราวเท่านั้น
ถึงเวลาของการค่อยๆ อบรมความเข้าใจธรรม มีความรู้ ความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้นแทน ความไม่รู้ซึ่งเป็นภัยใหญ่
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
ผู้รู้แจ้งโลกถึงที่สุดโลกได้ [อรรถกถาโรหิตัสสสูตร]
ขออนุโมทนาค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
พระอรหันต์สิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ [คาถาธรรมบท]
...ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตาด้วยนะครับ...
ปัญญาขั้นการฟังเป็นขั้นละความไม่รู้ แต่ยังไม่สามารถละกิเลสที่เหนียวแน่น ที่สะสมมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ฎ์ที่นับไม่ได้ ต้องอาศัยการฟังบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ จนกว่าปัญญาจะคมกล้าถึงขั้นที่เป็นโลกุตตระจึงจะสามารถดับกิเลสได้อย่างเด็ดขาดค่ะ
เมื่อรู้จักตนเองตามความเป็นจริง ว่า ยังเป็น "ปุถุชนผู้เดินทางไกล"หนทางยังแสนไกล ก็เดินกันต่อไป...สะสมความเข้าใจพระธรรม เท่าที่เหตุปัจจัยจะอำนวย
ขออนุโมทนาค่ะ