สิ่งที่ไม่ควรคิด
ขอท่านผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ สิ่งที่ไม่ควรคิดมีสิ่งใดบ้างครับ
ขอบพระคุณครับ
ผมเคยได้ยินมาว่าสิ่งที่ไม่ควรคิดมีอยู่ 4 อย่างที่เรียกว่า อจินไต4 [อจินไต พิมพ์ไม่ถูก
ขออภัยด้วย] ได้แก่ เช่น เรื่อง โลกเราไม่ควรคิด
เรียนความเห็นที่ 2
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...สิ่งที่ไม่ควรคิดเพราะไม่ใช่ฐานะที่จะรู้ได้ [อจินติตสูตร]
ตามปกติ คนปุถุชนเราๆ นี้ นั้นปฏิสนธิด้วยจิตอกุสล 12 และอเหตุกจิต 18
คิดอะไรก็เป็นไปตามอกุสลมากกว่ากุสล
มีอาจารย์ท่านนึงสอนว่าให้ท่องพระพุทธพจน์ตลอดเวลาที่ว่างอย่าไปคิด การคิดสร้างรูปและภพภูมิให้อยู่ในสังสารวัฏฏ์ฏตลอดไป ออกจากสังสาวัฏฏยากดังนั้นควรท่องพระรรมวินัยเช่น ท่องจิตในพระอภิธรรมทั้ง121 เจตสิก 52 รูปท่องบทอภิธรรม 7 บท ท่องอนัตตลักขณสูตร อาทิตยายาสูตร พระธัมมจักกัปปวัตนสูต ท่องทุกอย่างที่เป็นพระธรรมวินัยหากท่องไม่ได้ก็ฟังเทปธัมมะที่อ่านพระไตรปิฎก ขอให้เป็นพระไตรปิฏกแท้ ไม่ใช่แปลงมา
ท่านผู้สิกขาธัมท่านใดมี่ความเห็นอย่างไรคะ
การอ่านหนังสือธรรมะก็เป็นการคิดดีในขณะที่อ่านครับ
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น , ไม่คิดอาฆาตพยาบาท , ไม่คิดในแง่ร้ายต่อผู้อื่น เป็นความ
หมดจดแห่งจิต จึงควรทำให้เกิดในความรู้สึกอยู่เสมอ
แล้วการที่เราคิดเป็นอกุศลอย่างแรงจะมีผลเป็นกรรมได้ไหมครับ
ตามปกติ คนปุถุชนเราๆ นี้ นั้นปฏิสนธิด้วยจิตอกุสล 12 และอเหตุกจิต 18
คิดอะไรก็เป็นไปตามอกุสลมากกว่ากุสล
มีอาจารย์ท่านนึงสอนว่าให้ท่องพระพุทธพจน์ตลอดเวลาที่ว่างอย่าไปคิด การคิดสร้างรูปและภพภูมิให้อยู่ในสังสารวัฏฏ์ฏตลอดไป ออกจากสังสาวัฏฏยากดังนั้นควรท่องพระรรมวินัยเช่น ท่องจิตในพระอภิธรรมทั้ง121 เจตสิก 52 รูปท่องบทอภิธรรม 7 บท ท่องอนัตตลักขณสูตร อาทิตยายาสูตร พระธัมมจักกัปปวัตนสูต ท่องทุกอย่างที่เป็นพระธรรมวินัยหากท่องไม่ได้ก็ฟังเทปธัมมะที่อ่านพระไตรปิฎก ขอให้เป็นพระไตรปิฏกแท้ ไม่ใช่แปลงมา
ท่านผู้สิกขาธัมท่านใดมี่ความเห็นอย่างไรคะ
เรียนท่านบ้านเลขที่ ๕ ค่ะ,
จิตที่ทำกิจปฏิสนธิมีทั้งหมด ๑๙ ดวงค่ะ ซึ่งได้แก่
กามาวจรวิบาก ๑๐ ดวง (มหาวิบาก ๘, อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ๑ และอุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบาก ๑)
รูปาวจรวิบาก ๕
อรูปาวจรวิบาก ๔
ปุถุชนจึงปฏิสนธิได้ทั้งในกามภพ รูปภพและอรูปภพค่ะ
ส่วนการท่องก็คือการคิดเป็นคำๆ นั่นแหละค่ะ
เข้าใจสิ่งที่ท่องน่าจะเป็นประโยชน์กว่า
สิ่งที่ไม่ควรคิด อย่าไปเสียเวลาไปคิดเลยว่ามีอะไรบ้าง
ให้เอาเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตไปคิดแต่สิ่งที่ควรคิดจะได้ประโยชน์กว่า
วันเวลาผ่านไปแต่ละวัน ให้เรียนรู้แต่สิ่งที่เป็นไปในทางกุศล
ขอ อนุโมทนา ครับ
เรียนท่านความเห็นที่10
ขอบพระคุณที่ชึ้แนะค่ะ
สำหรับสิ่งที่ดิฉันเสนอไปนั้นดิฉันเข้าใจว่าคนปกติ สุคติอเหตุกบุคคล แบบเรานี่ค่ะ ไม่ได้หมายถึง รูปพรหม อรูปพรหม
พวกเราที่เดินดินและเข้ามาสนทนาธรรมนี้ดิฉันเองเข้าใจว่าส่วนมากเป็นกลุ่มสุคติ
อเหตุกบุคคลน่ะค่ะ อันนี้เกี่ยวโยงไปถึง บุคคล 12 กลุ่ม ตั้งแต่ ทุขคติอเหตุกบุคคล สุคติอเหตุกบุคคล ทวิเหตุกบุคคล ติเหตุกบุคคล และโลกุตรบุคคล
ดิฉันเข้าใจว่าสุคติอเหตุกบุคคล คงไม่ได้ปฏิสนจาก จิตกลุ่มญาณสัมปยุตมหาวิปากจิต
เพราะเข้าใจว่า ผู้ที่เกิดด้วยญาณสัมปยุตมหาวิปากจิตนั้นน่าจะเป็นติเหตุกบุคคลคือรอฟังธรรมพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุเป็นอริยบุคคลเลย
ท่านใดช่วยชี้แจงหน่อยสิคะ
น่าจะเป็นทุกเรื่องที่นอกเหนือจากการสร้างบุญกิริยาวัตถุ10 จะดีไหมคะ
ตั้ง แต่ ทานมัย ศีลมัย ...
ทีนีจะสร้างให้ถูกต้องต้องรู้พระรรมวินัยสิคะพระพุทธองค์ทรงอนุญาติให้ทำอย่างไรบ้างไม่ใช่แปลงจนไม่มีอะไรเหมือนในพระธรรมวินัย
ข้อนี้ท่านอาจารย์praderm
ทีนีจะสร้างบุญกิริยาวัตถุ10 ให้ถูกต้องต้องรู้พระธรรมวินัยสิคะพระพุทธองค์ทรงอนุญาติให้ทำอย่างไรบ้างไม่ใช่แปลงจนไม่มีอะไรเหมือนในพระธรรมวินัย
ข้อนี้ท่านอาจารย์pradermช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
เรียนความเห็นที่12 และ 13
การศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความแยบคาย ด้วยความเข้าใจถูกย่อมทำให้กุศลประการ
ต่างๆ คือบุญกิริยาวัตถุประการต่างๆ เจริญขึ้น โดยไม่ต้องไป ทำ แต่ธรรมจะทำหน้าที่ปรุง
แต่งเองให้กุศลเกิดขึ้นเมื่่อปัญญาเจริญขึ้น แต่ขอแนะนำอย่างหนึ่งครับว่า การศึกษา
ธรรมเพื่อความเจริญของปัญญาหรือเหตุเกิดของปัญญาไม่ใช่มาจากการท่องครับแต่มา
จากความเข้าใจขั้นการฟัง จำได้กับเข้าใจ สองคำนี้ต่างกัน ท่องจำได้ แต่ไม่เข้าใจใน
สิ่งนั้นก็ได้ แต่ถ้าเข้าใจย่อมจำได้ด้วยและไม่ลืมเพราะเข้าใจในสิ่งนั้นแล้วครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่....เหตุ ๘ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญา [ปัญญาสูตร]