ติดข้องในบุคคล

 
tiwa
วันที่  1 มิ.ย. 2553
หมายเลข  16367
อ่าน  1,193
ติดข้องในบุคคลอันเป็นที่รัก รู้สึกทุกข์มาก จะพิจารณาอย่างไร เพื่อพ้นจากทุกข์คะ

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 2 มิ.ย. 2553

ควรศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เพราะถ้าเข้าใจทุกอย่างตามความจริง ทุกข์

ก็จะค่อยๆ ลดลงตามกำลังของปัญญา ถ้ามีปัญญามากเหมือนพระอรหันต์

ย่อมไม่มีการยึดถือในสิ่งใดๆ ทุกข์ย่อมไม่มี..

ขอเชิญคลิกอ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่

แด่...ทุกท่านที่กำลังแสวงหา...ความรัก [ราชสูตรที่ ๑]

แด่....ทุกท่านที่กำลังแสวงหา....ความรัก 2

ความรัก!ภาษาธรรมะ ช่วยตอบที

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ING
วันที่ 3 มิ.ย. 2553

ขอกราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khunpit
วันที่ 3 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

เป็นการยากทีเดียวที่จะทวนกระแสนี้ ลองทำดูนะคะ ศึกษาพระธรรมเยอะๆ พิจารณากายเยอะๆ ดูจิตตนเองว่ากำลังมีสภาวะอย่างไรบ่อยๆ แต่พยายามอย่าถลำไปครำครวญหรือกระวนกระวายนะคะ และต้องปฏิบัติให้ทันและมากพอที่จะล้างอกุศลในจิตคะ หากท่านใดมีวิธีอื่น อยากทราบการปฏิบัติค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
รากไม้
วันที่ 5 มิ.ย. 2553

ทุกข์ที่เป็นอยู่ เป็นเรื่องปกติธรรมดาสุดๆ ของปุถุชนผู้มีกิเลส

ผู้เป็นผู้ที่ต้องการความรัก เพราะความรักทำให้เรารู้สึกมั่นคง ปลอดภัย อบอุ่น และมีความสุข จิตจึงไปยึดติดเอาผู้ที่ให้ความรักกับเราเอาไว้ ด้วยความไม่อยากเสียความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับเหล่านี้ไป ...จิตจึงดิ้นรน พยายามไปรักษาบุคคลที่รักเราเอาไว้ เกรงว่าเมื่อสูญไปแล้วจะหาคืนมาไม่ได้ จะหาความรักจากคนอื่นมาทดแทนไม่ได้

ทุกสิ่งตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะดับไป ...ดังนั้น บุคคลที่รักเรา ถ้ามีขึ้นมาแล้ว ก็ต้องหมดไป ตามกาลเวลา ไม่อาจตั้งอยู่เช่นนั้นได้ตลอดไป ไม่มีอะไรมั่นคง ไม่มีอะไรเกิดแล้วไม่ดับ ...หากว่าไปฝืนธรรม ไปยึดเอาสุขใดๆ ที่เป็นสิ่งที่มันต้องดับ ว่ามันจะต้องไม่ดับไป จึงเกิดเป็นทุกข์ใจ จะมากจะน้อยตามกำลังของความติดข้องต้องการความสุขของแต่ละคน

จะสุขหรือทุกข์ เป็นผลจากวิบาก ไม่มีใครหนีพ้นได้เลย ...ไม่มีใครสุขตลอดไป ไม่มีใครทุกข์ตลอดไป ทุกอย่างต้องเกิดดับสลับกันไป ดังนั้น เมื่อมีสุขก็อย่าไปยึดสุข เมื่อมีทุกข์ก็อย่าไปยึดทุกข์ เพราะทุกอย่างมันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ...ไม่มีทางที่ทุกข์ใดจะอยุ่กับเราตลอดไป เดี๋ยวสุขก็ต้องผ่านเข้ามาแทนที่

ลองพิจารณาดูนะครับ ...ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tiwa
วันที่ 7 มิ.ย. 2553

ขอขอบพระคุณ ทุกๆ ท่านที่ให้ธรรม นะคะ ได้อ่านและพิจารณา แล้วมีข้อที่สงสัยดังนี้ค่ะ

จาก อรรถกถาวิสาขาสูตร

ลำดับนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่นางว่า "ขึ้นชื่อว่าทุกข์นี้ มีสิ่งที่น่ารักเป็นเหตุ สิ่งที่น่ารักมีประมาณเพียงใด ทุกข์ก็มีประมาณเพียงนั้นเพราะฉะนั้น เธอผู้รักสุขเกลียดทุกข์พึงให้จิตเกิดความสลดจากวัตถุที่เป็นที่รักโดยประการทั้งปวง"

คำว่า พึงให้จิตเกิดความ สลด จากวัตถุที่เป็นที่รัก โดยประการทั้งปวง หมายความว่าอย่างไรคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
prachern.s
วันที่ 8 มิ.ย. 2553
พึงให้จิตเกิดความ “สลด” จากวัตถุที่เป็นที่รัก โดยประการทั้งปวง เข้าใจว่า ทรงแนะนำ พึงให้จิตถอยกลับ จากสิ่งอันเป็นที่รักทั้งหมดขณะที่ติดข้องผูกพัน ชื่อว่าไม่สลด เพราะเป็นอกุศล ขณะที่ใจสลดขณะนั้น ชื่อว่าถอยกลับ ไม่ติดข้องผูกพันด้วยโลภะ ความสลดใจ ตามหลักคำสอนเป็นธรรมส่วนกุศล (โอตตัปปะ)
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
คุณ
วันที่ 10 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ