ไม่ได้ฟังพระธรรมเลย--จะเป็น ปทปรม ไหม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการสนทนาธรรม วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ณ อาคารมูลนิธิโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะวิทยากร ถอดเทป โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
คุณคำปั่น มีประเด็นที่อยากจะเรียนถามท่านอาจารย์ ถึง "บุคคล ๔ จำพวก" ซึ่งเมื่อคราวที่แล้ว ก็ได้มีการพูดถึงบุคคล ๔ ประเภท คือ บุคคลผู้ตรัสรู้โดยเร็วเพียงยกหัวข้อขึ้นแสดง ก็สามารถรู้แจ้งสภาพธรรมได้คือ "อุคฆติตัญญูบุคคล"
บุคคลประเภทที่ ๒ คือ บุคคลที่ฟังคำขยายความธรรมะ โดยละเอียด ก็สามารถรู้แจ้งสภาพธรรมได้บุคคลประเภทนี้ เป็น "วิปจิตัญญูบุคคล"
บุคคลประเภทที่ ๓ คือ ผู้ที่พอจะแนะนำได้ เมื่อได้ฟังพระธรรม ได้สอบถามพระธรรมได้คบหาสมาคมกับท่านผู้รู้ ก็สามารถรู้แจ้งสภาพธรรมได้บุคคลประเภทนี้ เป็น "เนยยบุคคล"
สำหรับบุคคลประเภทสุดท้าย คือ "ปทปรมบุคคล" เป็นบุคคลผู้ที่ฟังมาก ศึกษามาก สามารถสอนผู้อื่นมากแต่ ไม่สามารถที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมในชาตินั้นได้
มีประเด็นที่สนทนากันว่า ผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรมเลย จะจัดว่าเป็น "ปทปรมบุคคล" หรือเปล่าครับ
ท่านอาจารย์ คำว่า "ปทปรม" แปลว่าอะไรคะ
คุณคำปั่น สำหรับคำแปลของคำว่า "ปทปรม" คือ "ผู้มีบทเป็นอย่างยิ่ง"
ท่านอาจารย์ เปลี่ยนไม่ได้ ใช่ไหม สำหรับผู้ที่ไม่เคยฟังพระธรรมเลย จะเป็น "ผู้มีบทเป็นอย่างยิ่ง" ได้ไหมคะ
คุณคำปั่น ไม่ได้ครับ เพราะเหตุว่า "ปทปรมบุคคล" ได้ฟังพระธรรมและสามารถที่จะ "สะสม" เป็น "วาสนา" ในภพต่อไปได้
ท่านอาจารย์ ขณะนี้เป็นบุคคลประเภทไหนคะ กำลังฟังเดี๋ยวนี้ เป็นบุคคลประเภทไหน
"อุคติตัญญูบุคคล" หรือเปล่า "วิปจิตัญญูบุคคล" หรือเปล่า "เนยยบุคคล" หรือเปล่า
เพราะฉะนั้น เป็นอะไร เป็น "ปทปรม" และถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมเลย ไม่เคยได้ยินสักคำ จะเป็น "ปทปรม" ได้ไหม -- ไม่ได้
.
ขออนุโมทนา
"...และถ้าไม่ได้ฟังพระ ธรรมเลย ไม่เคยได้ยินสักคำ จะเป็น "ปทปรม" ได้ไหมคะ --- ไม่ได้
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
แม้บุคคลจะได้ฟังธรรมก็ตาม
แต่เป็นผู้ฟังน้อย ศึกษาน้อย
ไม่เป็นผู้ที่มีบทอย่างยิ่ง
ก็ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็น ปทปรมบุคคลเลย ใช่ใหม่ครับ
ฟังแล้วมีการสะสมปัญญาขั้นฟัง แม้น้อย ความเข้าใจนั้นก็ไม่ได้สูญหายไปไหน สะสม
สืบต่อในจิตดวงต่อไปเป็นอุปนิสัย แม้ไม่อาจบรรลุธรรมเป็นพระอริยเจ้าในชาตินั้น หรือฟังแล้วก็เข้าใจน้อย ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เมื่อได้ฟังธรรมในชาติต่อๆ ไปอีก ก็จะเป็นปัจจัยให้อบรมเจริญปัญญาให้มากยิ่งขึ้นได้ครับ นี่คือปทปรมบุคคล เข้าใจน้อยไม่ว่า แต่ให้
เข้าใจถูกจริงๆ ในสิ่งที่ได้เข้าใจแล้ว แม้น้อยก็เป็นประโยชน์ ท่านพระสาวกทั้งหลายท่านก็เริ่มจากปัญญาที่มีน้อยเหมือนเรา จากฟังแล้วเข้าใจน้อยในชาติหนึ่ง ไปสู่ฟังแล้วเข้าใจขึ้นอีกเล็กน้อยในอีกชาติหนึ่ง ...สะสมไปทีละชาติสองชาติ ไปจนหมื่นกัปป์ แสนกัปป์ จนปัญญาที่สะสมมาถึงพร้อม ที่เมื่อฟังแล้วก็สามารถบรรลุเป็นพระอริยบุคคล ผู้ที่ฟังธรรมเข้าใจ ยิ่งเข้าใจ ก็จะยิ่งอาจหาญ ร่าเริงที่ได้มีโอกาสเห็นถูกในพระธรรมและได้อบรมเจริญกุศลทุกประการ "เพื่อละ" ครับ