ใบเสร็จรับเงินของมูลนิธิฯ เป็นเหตุ
ดิฉันเพิ่งทราบว่าใบเสร็จรับเงินของมูลนิธิฯ ไม่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ ก่อนนี้ดิฉันเคยนำไปใช้หักภาษี แต่สรรพากรก็ไม่ได้ท้วงติงอะไร เมื่อทราบว่าหักภาษีไม่ได้ ดิฉันก็ยังคิดว่าจะนำไปหักภาษีอยู่ดี ขณะนั้นดิฉันขาดสติจริงๆ เมื่อจิตฟุ้งซ่าน (อุทัจจเจตสิก) นึกย้อนมาที่เรื่องนี้ ก็เกิดระลึกได้ว่า นี่มันโลภะ ครั้งนี้โชคดี ที่ละอกุศลได้ก่อนที่จะกระทำ แต่มโนทุจริตไปแล้ว
ดิฉันขอเรียนถามว่า ใบเสร็จจากการทำบุญ แล้วเราเอาไปลดหย่อนภาษี จริงๆ แล้วเป็นอกุศลหรือไม่ (หากเรื่องนี้มีท่านใดเคยถามแล้ว ช่วยกรุณาโยงเรื่องให้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ)
เข้าใจว่าการทำบุญของคนในโลกนี้มี ๒ ประเภท คือบางคนทำบุญแล้วหวังผลบางคนทำบุญแล้วไม่หวังผลใดๆ เลย แม้เพื่อการลดหย่อนภาษี คือเป็นการบริจาคจริงๆ
ดังนั้น ผู้ที่ทำบุญแต่หวังสิ่งต่างๆ เช่น ทำบุญเอาหน้า เพื่อการสรรเสริญ เพื่อคะแนนเสียง เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี เป็นต้น ก็เท่ากับว่า ทำบุญโดยมีอะไรแอบแฝงอยู่ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือกิเลสนั้นเองครับ
ขออนุญาตเรียนมถามว่า
ความตั้งใจทำบุญมีอยู่ไม่ได้ประสงค์สิ่งใด แต่การนำไปลดหย่อนภาษีเป็นผลพลอยได้เท่านั้น เป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นตามสิทธิทั่วๆ ไป เช่นนี้ ถือว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่ครับ
สาธุ
ยากจริงครับแม้กระทั่ง ทาน ที่ให้ แม้เล็กน้อย ก็ยากที่จะ ละคลาย
จริงๆ แล้วคงต้องกล่าวใหม่ว่า กิเลสที่มีเป็นเหตุ
ไม่ใช่อย่างอื่นเป็นเหตุครับ
ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ใบเสร็จที่มูลนิธิเอาไปลดภาษีไม่ได้ ดิฉันก็นำไปหักภาษีตลอด ไม่ทราบว่าเพราะอะไร จึงนำไปหักภาษีไม่ได้
ขอบพระคุณอาจารย์และทุกท่านค่ะ
ดิฉันพิจารณาตนเองแล้ว ขอยอมรับว่าเป็นผู้ทำบุญหวังผลคนหนึ่ง ทั้งผลจากกุศลที่ได้กระทำ เพราะดิฉันพยายามสะสมบุญ และผลจากการลดหย่อนการคืนเงินภาษีในแต่ละปี เพราะไม่อยากเสียภาษีมาก เสียดายเงิน
จริงๆ แล้วดิฉันลืมไปว่าการเสียภาษีก็เป็นการทำกุศลช่วยชาติและประชาชนคนไทย น่าจะจัดเป็นสาธารณกุศล ซึ่งมีผลมากกว่าสังฆทานเสียอีก ขอบคุณกิเลสเป็นเหตุ ให้กุศลและปัญญาได้เกิดเพิ่มขึ้นค่ะ
อาศัยปัญญาเข้าใจธรรมะ กุศลทั้งหลายจึงเจริญขึ้น แม้แต่ความคิด ก็คิดในทางที่จะสละสิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆ ทรัพย์ที่มีก็ั่มีชั่วคราวเท่านั้น พรุ่งนี้เราอาจจะไ่ม่มีโอกาสใช้อีกก็ได้ จะหมดไปกับเหตุอื่นซึ่งไม่ใช่การสละก็ได้ บุญเก่าทำให้ทรัพย์มีตามเหตุปัจจัย แล้วก็จะหมดไปตามเหตุปัจจัย อยู่ที่ว่าจะเร่งขวนขวายให้ทรัพย์นั้นเป็นไปเพื่อสิ่งใด พอกพูนหรือสละ ประโยชน์อันใดไม่เท่ากับการขัดเกลากิเลสของตนครับ
ใบเสร็จมูลนิธิ ฯ นำไปหักภาษีไม่ได้ เพราะใช้เกี่ยวกับการเผยแพร่ธรรมะ ยอดไม่ถึงที่เขาตั้งไว้ จึงนำไปหักภาษีไม่ได้ค่ะ
เรียนความเห็นที่ ๗ เท่าที่ทราบ ใบเสร็จรับเงินที่ออกโดยสมาคม หรือมูลนิธิ เป็นต้น ที่ได้รับประกาศจากทางกระทรวงการคลัง เท่านั้น จึงสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ส่วนสมาคมหรือมูลนิธิ ที่ไม่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ ใบเสร็จที่บริจาคเงินนั้นไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และ มูลนิธิศึกษาฯ ก็ไม่ได้รับการประกาศข้างต้นครับ
นับตั้งแต่มาฟังธรรมที่มูลนิธิไม่เคยนำใบเสร็จจากการทำบุญใดๆ มาลดภาษีเลยค่ะขออนุโมทนากับทุกท่านที่เจริญทานบารมี
ขอบคุณค่ะ ต่อไปจะได้ไม่นำใบเสร็จของมูลนิธิไปหักภาษีอีก ที่ผ่านมาดิฉันไม่ทราบ ก็เลยนำไปหักภาษีด้วย เพราะทุกปีพอเสียภาษี ดิฉันก็จะนำใบเสร็จจากการบริจาค ไปลดภาษีตามสิทธิ
ข้าพเจ้าอยู่ไกลจากที่เคยนั่งรถเมล์ ไปกลับปทุมและมูลนิธินั้นก็หลายชั่วโมงดิฉันใช้วิธีส่งธนานัติแต่ทางมูลนิธิก็ได้ส่งใบอนุโมทนามาแทบทุกครั้งดิฉันดีใจที่ถึงแล้วแต่ไม่เคยนำไปลดหย่อนภาษีอะไรแค่เก็บไว้ให้บุตรและสามีได้ร่วมอนุโมทนาด้วยกันเท่านั้น
ท่าน อาจารย์สุจินต์ สอนว่า ขณะใดที่ไม่ได้เป็นไปใน ทาน ศีล ปัญญา ...เป็นอกุศลหมดเลย เพราะไม่ได้เป็นไปเพื่อการละกิเลส
ผมว่า ถ้าหากเราลดหย่อนภาษี เพื่อนำมาใช้ทำบุญต่ออีกรอบหนึ่ง ไม่ได้เอามาสร้างความสุขให้เกิดแก่ตนเอง นั่นก็เป็นกุศลจิตได้ ดังนั้นการขอลดหย่อนไม่ได้เป็นอกุศลเสมอไป ขึ้นอยู่กับวาระจิตขณะนั้นว่า มีโลภะหรือไม่
สำหรับผม ผมใช้วิธีหยอดตู้เอา จึงไม่ได้รับใบอนุโมทนาใดๆ เพราะผมไม่สนใจอยู่แล้ว
ขอนุโมทนา ทุกดวงจิตที่เป็นไปในกุศลธรรม
ดิฉันขออนุโมทนากับทุกท่านที่ไม่ได้นำใบเสร็จทำบุญไปลดหย่อนภาษี และดิฉันขอเชิญชวนทุกท่านที่เสียภาษี หากไม่เดือดร้อนเรื่องเงินที่ต้องเสียภาษีมากนัก ก็เสียภาษีเป็นเต็มๆ ตามรายได้จริงเถิดค่ะ เพราะได้บุญมากได้ช่วยชาติและประชาชนให้อยู่ดีมีสุขกันถ้วนหน้า
ขออนุโมทนามาล่วงหน้าค่ะ