ทำไมชาวพุทธเรา ชอบเอาศาสนาฝากไว้กับพระฝ่ายเดียว
ฆราวาสก็ทำกิจเผยแผ่ศาสนา ปกป้องศาสนา สืบทอดพระพุทธศาสนาได้โดยการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ฟังธรรม สนทนาธรรม แสดงธรรมและประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน ชื่อว่า กำลังสืบทอด ปกป้องพระธรรมคำสอนครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ความเสื่อมและความเจริญของพระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่ไหน แต่อยู่ที่ใจของแต่ละคน ที่มีความเข้าใจพระธรรมแล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามมากหรือน้อย ซึ่งไม่ได้จำกัดว่าเป็นบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ดังนั้น การปกป้องพระพุทธศาสนา รักษาพระศาสนาก็คือการศึกษาธรรมให้เข้าใจถูกแล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ด้วยความจริงใจและเป็นผู้ตรงในการขัดเกิลากิเลสจริงๆ เมื่อใจแต่ละคนประกอบด้วยคุณธรรม อันมีความเห็นถูกเป็นหลัก
พระศาสนาย่อมจะดำรงอยู่ได้ เพราะแต่ละคนมีความเข้าใจพระธรรมประกอบด้วยคุณธรรมอันดีงาม จึงไม่มีการฝากกับใครในเรื่องใด จะเสื่อมหรือเจริญก็อยู่กับใจของแต่ละคนเป็นสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น หากอุบาสก อุบาสิกา ไม่เข้าใจพระธรรม คือพระวินัยที่ถูกต้อง ก็ย่อมปฏิบัติกับพระภิกษุสงฆ์ผิด เช่น ให้เงินทอง เป็นต้น ก็ย่อมทำให้ท่านอาบัติ รวมทั้งหากไม่เข้าใจหนทางปฏฺิบัติที่ถูกต้อง ก็ย่อมเป็นผู้มีความเห็นผิด ใจก็เสื่อมจากคุณธรรม เพราะมีความเห็นผิด เมื่อมีความเห็นผิดก็ย่อมคิดผิด พูดผิด ย่อมชักชวนผู้อื่นให้ปฏิบัติผิดด้วย จึงทำให้ศาสนาเสื่อมเร็วขึ้น
ในทางตรงกันข้าม หากพุทธบริษัทมีความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง และน้อมปฏิบัติตามแล้ว ก็ย่อมมีความเห็นถูก มีการคิดในสิ่งที่ถูก ชักชวนบุคคลอื่นในความเห็นถูก ผู้ที่ถูกชักชวน มีความเข้าใจถูกตามที่คนนั้นแสดง พระศาสนาก็สืบทอดได้นาน เพราะมีความเห็นถูกเป็นสำคัญครับแต่ละคนจึงเป็นผู้ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาด้วยการน้อมปฏิบัติตามพระธรรมด้วยความจริงใจ
เชิญคลิกอ่านที่นี่
การรักษาพระศาสนาคือพุทธบริษัททั้งหมดน้อมปฎิบัติตามพระธรรม
[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 421
จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่พึงคัดค้านอย่างนั้นไซร้ ต่อไปในอนาคต พุทธบริษัทก็ไม่ต้องบำเพ็ญศีลในฐานะที่ศีลมาถึง จักไม่ให้สมาธิบริบูรณ์ในฐานะที่สมาธิมาถึง ไม่ให้ถือห้อง คือวิปัสสนาในฐานะที่วิปัสสนามาถึง ชักชวนแล้วชักชวนอีก ซึ่งอุปัฏฐากกระทำการบูชาอย่างเดียวอยู่
จริงอยู่ชื่อว่า อามิสบูชานั้น ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาแม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่มข้าวยาคูครั้งหนึ่งบ้าง จริงอยู่ วิหารพันแห่ง เช่นมหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่นมหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้ บุญูผู้ใด ทำไว้ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว ส่วนสัมมาปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต เป็นความจริงปฏิบัติบูชานั้นชื่อว่าดำรงอยู่แล้ว สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย เพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงแสดงปฏิบัติบูชานั้น จึงตรัสว่า โย โข อานนฺท เป็นต้น
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ศาสนาไม่ได้อยู่ที่พระ ศาสนาคือ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ศาสนาฝากไว้ที่ใครไม่ได้ นอกจากตนเองจะศึกษาธรรมให้เข้าใจค่ะ
ศาสนา คือ คำสอน พระธรรม คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นศาสดาแทนพระองค์เราจะเผยแผ่ ปกป้อง และสืบทอดพระศาสนาได้ เราก็ต้องศึกษา ให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูกในพระธรรมเสียก่อน ถ้าเรามีความเห็นถูก ปัญญาเจริญขึ้น ปัญญาก็จะย่อมจะเห็นประโยชน์ของการที่จะช่วยเผยแผ่ ปกป้อง และสืบทอดพระศาสนาได้ เพราะพระธรรมเป็นคำสอน และคำสอน คือ ศาสนา พุทธศาสนาสอนให้เป็นผู้รู้ ไม่ใช่ให้ไม่รู้ ถ้าไม่รู้อะไร จะเผยแผ่อะไร ปกป้องอะไร สืบทอดอะไร
ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือความรู้เพราะว่าพุทธะ หมายถึง ผู้รู้ ผู้รู้ ในที่นี้ก็คือผู้มีปัญญา ด้วยเหตุนี้ หลักสำคัญของการเผยแผ่ปกป้องและสืบทอดพระศาสนา ก็ต้องเป็นไปเพื่อการให้พุทธบริษัทได้มีโอกาส อบรมเจริญปัญญาถึงความเป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริง ตรงตามพระธรรมคำสอน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้และทรงมหากรุณาแสดงครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระพุทธศาสนา หมายถึง พระธรรมคำสอนของท่านผู้รู้ กล่าวคือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นบุคคลผู้ทรงมีพระปัญญาอันเลิศ หาผู้เปรียบมิได้พระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ที่ไหน ไม่ได้อยู่ที่วัด ไม่ได้อยู่โบสถ์ หรือวิหารต่างๆ แต่อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกของชาวพุทธ ต้องเน้นว่าอยู่ที่ความเข้าใจของชาวพุทธ (ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศใด ก็ตาม) ถ้าชาวพุทธไม่เข้าใจพระธรรม แล้วจะสืบทอดพระธรรม ซึ่งเป็นพระพุทธศาสนาได้อย่างไร พระธรรมสูญแน่นอน ไม่มีการที่จะดำรงสืบต่อไปได้
เพราะฉะนั้นแล้ว จึงขึ้นอยู่กับชาวพุทธ หรือพุทธบริษัทที่เข้าใจพระธรรมซึ่งก็เป็นแต่ละบุคคล จึงควรอย่างยิ่งจะศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพนอบน้อม พร้อมทั้งมีความจริงใจและความตั้งใจมั่นที่จะประพฤติปฏิบัติตาม และประการที่สำคัญ จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม ไม่ใช่เพื่อเก่ง ไม่ใช่เพื่อได้ลาภ สักการะ แม้แต่เพียงการชมเชย เพราะถ้าศึกษาเพื่อต้องการสิ่งดังกล่าวนั้น จะไม่ได้สาระจากพระธรรม (นอกจากเพิ่มกิเลสให้กับตนเองเท่านั้น) แต่ควรเป็นผู้ที่ศึกษาเพื่อประโยชน์จริงๆ คือ เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก และขัดเกลากิเลสของตนเอง ซึ่งมีมากเหลือเกิน ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ก็โดยการศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ที่ไหน ไม่ได้อยู่ที่วัด ไม่ได้อยู่โบสถ์ หรือวิหารต่างๆ แต่อยู่ที่ ความเข้าใจถูก เห็นถูกของชาวพุทธ พุทธศาสนา สอนให้เป็นผู้รู้ ไม่ใช่ให้ไม่รู้ ถ้าไม่รู้อะไรจะเผยแผ่อะไร ปกป้องอะไรหรือสืบทอดอะไรได้ พุทธศาสนาไม่ได้มีไว้ฝากกับพระ แต่เพื่อให้ชาวพุทธเราศึกษา ถ้าชาวพุทธเรา ไม่ศึกษาพระธรรมคำสอน พุทธศาสนาก็คงสูญสิ้นแน่นอน