ได้ยินแล้วคิด

 
Khaeota
วันที่  21 ก.ค. 2553
หมายเลข  16786
อ่าน  1,082

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เคยได้ยิน ท่าน อ. สุจินต์ แสดง "คนถ่อย" ได้ยินแล้วคิด คือ ขณะไหน อย่างไร และธรรมอะไรได้ชื่อว่า ธรรมเป็นเครื่องกระทำให้เป็นคนถ่อย

ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาทุกๆ ท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 22 ก.ค. 2553

บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ ไม่เป็นพราหมณ์เพราะชาติ แต่เป็นคนถ่อยเพราะกรรม

เชิญคลิกอ่าน...

ลักษณะคนถ่อย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 22 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 24 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 24 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 25 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 28 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 24 มี.ค. 2564

ขอเชิญรับฟังเพิ่มเติมจาก ...

ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา แผ่นที่ ๘ ครั้งที่ 0422

เริ่มนาที 03:58 - 18:55

ข้อความบางตอน...

สำหรับชีวิตของทุกท่าน ก็ย่อมประสบทั้งอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์เป็นของธรรมดา เพราะว่าเป็นผลของอดีตกรรมที่ได้กระทำแล้ว แม้บุคคลผู้ประเสริฐสุด เช่น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่พ้นจากการที่จะได้รับกระทบกับอนิฏฐารมณ์ แม้ ผรุสวาจา

เพราะฉะนั้น ถ้าท่านผู้ฟังถูกผรุสวาจาใดๆ ก็ตามกระทบกระทั่ง ขอให้ทราบว่าไม่ใช่ตัวท่านผู้เดียว ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ย่อมแล้วแต่กรรมที่ได้กระทำไว้แล้วทั้งสิ้น แม้บุคคลผู้ประเสริฐสุด เช่น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังมีบุคคลที่เรียกพระองค์ว่า คนถ่อย

ขุททกนิกาย สุตตนิบาต วสลสูตรที่ ๗ มีข้อความว่า

ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังพระนคร สาวัตถี ก็สมัยนั้นแล อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ก่อไฟแล้ว ตกแต่งของที่ควรบูชาอยู่ในนิเวศน์ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเที่ยวบิณฑบาตตามลำดับตรอกใน พระนครสาวัตถี เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของอัคคิกภารทวาชพราหมณ์ อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกลทีเดียว ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนโล้น หยุดอยู่ที่นั่นแหละสมณะ หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนถ่อย

พุทธศาสนิกชนสมัยนี้ใคร่ที่จะได้เฝ้า ได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ไม่รู้สึกเป็นสุขเลยที่ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกลและได้เข้าไปในบ้านของพราหมณ์นั้น ซึ่งท่านผู้ฟังจะเห็นโทษของการสะสมความเห็นผิด ซึ่งควรที่จะปลาบปลื้มโสมนัสที่ได้เห็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่สำหรับผู้ที่สะสมความเห็นผิดกลับเห็นว่า พระผู้มีพระภาคควรจะหยุดอยู่ที่นั่น ไม่ควรที่จะเข้าไปในบ้านของตน ซึ่งท่านผู้ฟังก็คงจะเสียดายโอกาสของการเห็นของอัคคิกภารทวาชพราหมณ์ ที่ไม่รู้คุณค่าว่า การที่จะได้มีโอกาสเห็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นโอกาสที่ยากยิ่ง

เมื่ออัคคิกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า ดูกร พราหมณ์ ก็ท่านรู้จักคนถ่อย หรือธรรมเป็นเครื่องกระทำให้เป็นคนถ่อยหรือ ฯ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ