เริ่มรู้ลักษณะที่เห็น

 
เมตตา
วันที่  11 ส.ค. 2553
หมายเลข  16907
อ่าน  1,347

ขณะนี้เห็นอะไร? หากตอบว่า เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา ตอบได้เพราะจำได้ ทันทีที่เห็นสิ่งที่กำลังปรากฏก็เป็นรูปร่างต่างๆ แล้ว จิตเห็นเกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็วจึงสืบต่อเป็นนิมิต เป็นรูปนิมิต ซึ่งเป็นนิมิตของปรมัตถธรรม เพราะมีนิมิตจึงมีบัญญัติสิ่งที่เหลือแต่ละทางที่ปรากฏให้เห็นได้จึงเป็นเพียงนิมิต ขณะนี้เห็นอะไร? เห็นเป็นรูปร่าง สัณฐาน เป็นสัตว์ บุคคล สิ่งของ เป็นเรื่องราวต่างๆ ซึ่งไม่มีสภาพที่เป็นจริงเลย หนทางที่จะรู้ความจริงคือ การฟังให้เข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ ขณะนี้มีสิ่งที่มีจริงกำลังปรากฏ เห็นมีจริง ขณะนี้เห็น ต้องเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา สะสมความเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏ เริ่มรู้ลักษณะที่เห็น และสิ่งที่กำลังปรากฏ สะสมความเห็นถูกเข้าใจถูกซึ่งเป็นปัญญา ปัญญารู้ความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง.... ความจริงต้องจริงตลอด...

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 12 ส.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

อนุโมทนาพี่เมตตา ที่นำข้อความดีๆ มาให้อ่านกันครับ ใช่ครับ ขณะนี้มีเห็นไม่ต้องจำชื่อ เห็นก็มี ไม่ต้องบอกว่าเห็นหนอ เห็นก็มี เห็นแล้วเพราะปรากฎอยู่ ไม่ต้องเรียกชื่อว่าเห็น แต่มีลักษณะของเห็นให้รู้ ซึ่งเป็นธาตุรู้ เพราะฉะนั้นการฟังพระธรรมจึงไม่ใช่ เป็นการฟังเรื่องราวว่าเห็นมีเจตสิกอะไรประกอบบ้าง แต่การรู้ความจริงที่ทำให้ปัญญาเจริญคือการเข้าใจความจริงของเห็นว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราที่เห็น เพื่อไถ่ถอนความเห็นผิดว่าเป็นสัตว์ บุคคลตัวตนครับ แม้จะกล่าว่าก็ตอนนี้รู้ไมได้ ต้องจำชื่อไปก่อน แต่นั่นไม่ใช่หนทางการอบรมปัญญา เพราะอาศัยการฟังในเรื่องสภาพธรรมก็ไม่ต้องจำชื่อ ก็เริ่มเข้าใจจากขั้นการฟังว่าเป็นธรรม พูดเรื่องเห็นก็รู้ว่าเป็นธรรม เข้าใจในในขั้นการฟังการเข้าใจอย่างนี้ย่อมปรุงแต่งให้รู้ความจริงได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นการฟังธรรมในเรื่องของพระอภิธรรมจุดประสงค์ต้องถูกต้อง ด้วยการตั้งจิตไว้ถูกคือเพื่อเห็นถึงความเป็นอนัตตา แม้ขั้นการฟังและให้เข้าใจความจริงในขณะนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อจุดประสงค์

ถูกก็ย่อมทำให้ปัญญาเจริญไปตามลำดับ สามารถรู้ความจริงในขณะนี้และดับกิเลสได้เพราะฉะนั้น จะตายไปพร้อมกับความจำชื่อได้มากมายหรือว่าจะตายไปพร้อมกับความเข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา อย่างไหนเป็นปัญญา

ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
h_peijen
วันที่ 12 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผิน
วันที่ 12 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kinder
วันที่ 12 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chaiyut
วันที่ 13 ส.ค. 2553

พระธรรมเป็นความจริงแท้ที่ไม่ควรจะให้เป็นแต่เพียงการถามได้ - ตอบได้ แต่ควรจะเป็นความตรงต่อความละเอียดของธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงมากยิ่งขึ้นด้วยความเข้าใจขั้นที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ยังไม่มีปัจจัยให้ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมก็ตรงเพียงขั้นฟัง จำได้จากการพิจารณา แต่ความจริงของสิ่งนั้นที่ตอบไป เกิดแล้วดับแล้วอย่างรวดเร็ว กว่าจะเข้าใจถูก กว่าจะตรงลักษณะจริงๆ ยากเหมือนจับด้ามมีดให้สึก ต้องเป็นผู้ที่อดทน มีความเพียร ไม่ทอดธุระแม้ในขั้นความเข้าใจขั้นต้นว่า ธรรมเป็นธรรม ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน ไม่ต้องไปทำอะไร ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟังครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 13 ส.ค. 2553

"...เพราะฉะนั้นจะตายไปพร้อมกับความจำชื่อได้มากมายหรือว่าจะตายไปพร้อมกับความเข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา..."

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
saifon.p
วันที่ 14 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
khampan.a
วันที่ 14 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
bsomsuda
วันที่ 15 ส.ค. 2553

"......เพราะฉะนั้นการฟังธรรมในเรื่องของพระอภิธรรม จุดประสงค์ต้องถูกต้อง ด้วยการตั้งจิตไว้ถูกคือเพื่อเห็นถึงความเป็นอนัตตา......เมื่อจุดประสงค์ถูกก็ย่อมทำให้ปัญญาเจริญไปตามลำดับ..."

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
นกขมิ้น
วันที่ 16 ส.ค. 2553

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
คุณ
วันที่ 10 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ