การอธิษฐานจิต

 
โอ้เอ้
วันที่  13 ส.ค. 2553
หมายเลข  16927
อ่าน  2,509

ดิฉันมีข้อสงสัยว่า เมื่อเราทำกุศล เช่น ทำบุญ หรือสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ตั้งจิตอธิษฐานความปรารถนา เช่น หากเกิดภพใด ชาติใด ขอให้ได้เกิดในบวรพุทธศาสนา ได้รู้ธรรม เช่นนี้ถือว่า ทำกุศลแล้วยังหวังผลในกุศลที่ทำ คือยังมีโลภะ อยู่หรือไม่คะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยกรุณาแนะนำด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 14 ส.ค. 2553

ควรทราบว่า ทุกขณะในชีวิตของปุถุชน ผู้หนาด้วยกิเลส ยากที่จะพ้นไปจากโลภะถ้ายังหวังการเกิด ไม่ว่าภพใดๆ ย่อมไม่พ้นจากโลภะ แต่ฉันทะที่ดี ที่ใคร่จะพบพระธรรมได้เห็นธรรม ก็เป็นความปรารถนาที่ดี ไม่มีโทษ แต่ผู้ที่จะมีความปรารถนาเช่นนี้ ก็เพราะยังมีโลภะอยู่นั่นเอง ผู้ที่ดับโลภะได้แล้ว ย่อมไม่มีความปรารถนาเช่น

นี้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
รากไม้
วันที่ 14 ส.ค. 2553

ขออนุญาต ร่วมสนทนา...

หากเจริญกุศลทุกประการ ที่เป็นไป เพื่อการละกิเลส ในชาตินี้ ...ชาติต่อๆ ไป มีโอกาสได้พบพระธรรมอีกแน่นอน ตามที่ได้สะสมไว้ในจิต โดยไม่ต้องขอ ไม่ต้องตั้งความปรารถนา ในผลใดๆ เลย เพราะจิตที่ตั้งไว้ในกุศลเจตนา ที่ดีที่ควรแล้ว ย่อมได้ไปสู่ภพ ที่มีโอกาสให้เจตนานั้นๆ ได้เจริญขึ้นกว่าเดิม แน่นอน การทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด แม้จะเป็นกุศล แต่ว่าไปหวังในผล ไปคาดหวังในผล ขณะนั้น อกุศล ที่เป็นโลภะได้เกิดในจิตแล้ว เมื่อไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง ก็จะเป็นทุกข์ จะท้อแท้ในการศึกษาพระธรรม

ขออนุโมทนา ทุกดวงจิตผู้ใฝ่ธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 14 ส.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง ที่สำคัญไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวันเลย ทุกขณะของชีวิตเป็นธรรมทั้งหมด จึงควรศึกษาเพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น ต่อไป โดยธรรมดาของบุคคล ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น กุศลจิต ย่อมเกิดมากกว่ากุศล แม้แต่ความติดข้องยินดีพอใจ ซึ่งเป็นลักษณะของโลภะ นั้น ก็ยังมีมาก แม้แต่วันนี้วันเดียวติดข้อง ได้ทุกอย่าง (ยกเว้นโลกุตตรธรรม ๙ เท่านั้น) และนอกจากนั้น ยังมีกุศลธรรมประการอื่นๆ อีกมากมาย ที่เกิดขึ้นกลุ้มรุมทำร้ายจิตใจของเราอยู่เกือบจะตลอดเวลา การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็ได้ในสิ่งที่ได้โดยยาก ประการหนึ่ง เพราะเหตุว่าพ้นจากการเกิดในอบายภูมิแล้ว ในขณะที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และยังได้เกิดถิ่นที่มีพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งได้ฟังพระธรรม ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดง จากกัลยาณมิตรผู้ที่มีปัญญา อีกด้วย กล่าวได้ว่า ได้ในสิ่งที่ได้ยากเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น จึงต้องค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ไปตามลำดับ ซึ่งการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพียงวันนี้ ชาตินี้ยังไม่พอ ต้องสะสมต่อไปอีกเป็นระยะ

เวลาที่ยาวนานทีเดียว ความเข้าใจที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเจริญขึ้นนั้น ไม่สูญหายไปจากจิต สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ และประการที่สำคัญ เพราะได้กระทำบุญไว้แต่ชาติปางก่อน (ชาตินี้ ก็จะเป็นชาติก่อนของชาติหน้า) ก็จะผันให้เรา ได้ไปเกิดในถิ่นที่เหมาะสม ได้คบหากัลยาณมิตร ได้ตั้งตนไว้ชอบในกุศลธรรม และยังจะได้สะสมเหตุทีดีต่อไปอีก โดยไม่ต้องหวังเลย ซึ่งทุกอย่าง เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ทั้งสิ้น พึ่งเริ่มต้น ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ทุกอย่างเป็นธรรม มั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรม แม้แต่ความติดข้องต้องการก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้น ตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็ดับไป หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคลในสภาพธรรมนั้นๆ ไม่ได้เลยครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 16 ส.ค. 2553

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...อ่านเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 16 ส.ค. 2553

การทำกุศลแล้ว ปรารถนาขอให้ได้พบสัตบุรุษ ได้ฟังพระธรรม ได้เข้าใจพระธรรม

ได้พบหนทางที่ถูกต้อง มีปัญญาพิจารณาธรรม นี้ไม่ใช่โลภะที่ติดข้องในกามคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
คุณ
วันที่ 16 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
โอ้เอ้
วันที่ 20 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนา ทุกๆ ท่านที่ให้ความกระจ่างค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
michii
วันที่ 25 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ