สัตว์คิดพิจารณา (มนสิการ)
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 638
ข้อความบางตอนจาก
อรรถกถา
สติปัฏฐานสูตร
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมาเพื่อประโยชน์แก่เธอ. ก็ในเรื่องนี้ไม่เฉพาะแต่ มนุษย์ชาติอย่างเดียวเท่านั้น ที่พากันประกอบมนสิการสติปัฏฐาน แม้แต่พวกสัตว์ เดียรัจฉานที่อาศัยเขาอยู่ (ก็มนสิการสติปัฏฐาน) ในการทำมนสิการสติปัฏฐานของสัตว์นั้น มีเรื่องเล่าดังต่อไปนี้ :-
นกแขกเต้าเจริญสติปัฏฐาน
เล่ากันนาว่า นักฟ้อนรำคนหนึ่ง เที่ยวจับลูกนกแขกเต้ามาฝึก นางอาศัยสำนักภิกษุณีอยู่ เวลาไปก็ไป (แต่ตัว) ลืมลูกนกแขกเต้าเหล่าสามเณรีจึงจับมันมาเลี้ยงไว้. ตั้งชื่อให้มันว่า พุทธรักขิต (พุทธรักษา) . อยู่มาวันหนึ่ง พระเถรีเห็นมันเจ่าอยู่ข้างหน้า จึงเรียกว่า พุทธรักษา.
มันขานรับว่า อะไรคะ คุณแม่.
มีมนสิการภาวนา อะไรบ้างไหม? พระเถรีถาม
ไม่มีคะ คุณแม่ นกตอบ.
พระเถรีพูดว่า แกเอ๋ย ธรรมดาผู้อยู่ในสำนักบรรพชิต ไม่ควรจะเป็นอยู่โดยปล่อยอัตภาพเสีย (ปล่อยตัว) ควรปรารถนามนสิการอะไรบางอย่างนะ แล้วได้บอกว่าแต่อย่างอื่นเจ้าไม่สามารถ (ทำได้) จงสาธยาย (บริกรรม) ว่า อฎฺฐิ อฏฺฐิ (กระดูกกระดูก) . มันตั้งอยู่ ในโอวาทของพระเถรี เที่ยวสาธยายว่า อฏฺฐิ อฎฺฐิ (กระดูกกระดูก) . อยู่มาวันหนึ่ง ตอนเช้ามันเกาะปลายเสาผึ่งแดดอ่อนอยู่ นกตัวหนึ่ง ได้
เอากรงเล็บเฉี่ยวเอาไป. มันส่งเสียงร้อง แจ๊ด แจ๊ด. สามเณรีทั้งหลายได้ยินเสียงร้อง จึงพูดว่า คุณแม่ขา พุทธรักษาถูกนกเฉี่ยวไป หนูจะไปช่วยให้มันปล่อย แล้วพากันถือเอาก้อนดินเป็นต้นติดตามไป ให้มันปล่อยจนได้. พระเถรีถามมัน ผู้ที่เขาช่วยนำมา เกาะอยู่ข้างหน้าว่า พุทธรักษาเวลานกเฉี่ยวเอาไป แกคิดอะไร?
มันตอบว่า คุณแม่เจ้าขา ดิฉันไม่ได้คิดอย่างอื่น คุณแม่ ดิฉันคิดถึงกองกระดูกเท่านั้น อย่างนี้ว่า กองกระดูกนั้นแหละ เฉี่ยวเอากองกระดูกไป กองกระดูกจะเกลื่อนกลาดไป ไม่ว่าแม้ในที่ไหน?
ดีแล้ว ดีแล้ว พุทธรักษา (การมนสิการอย่างนั้น) จักเป็นปัจจัยของความสิ้นไปแห่งภพของเธอในอนาคต พระเถรีกล่าว.
แม้สัตว์เดียรัจฉานในชนบทนั้น ก็ประกอบมนสิการในสติปัฏฐาน ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงยังความเจริญในสติปัฏฐานนั้นเองให้เกิดแก่เขาเหล่านั้น จึงได้ตรัสพระสูตรนี้ไว้