ชมพูทวีป หมายถึง โลกมนุษย์ทั้งหมด

 
sittirat
วันที่  29 ก.ค. 2549
หมายเลข  1725
อ่าน  29,330

ชมพูทวีป หมายถึง โลกมนุษย์ทั้งหมด ไม่ใช่อินเดีย เนปาล อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ ดังมีหลักฐานที่พระพุทธเจ้าแสดงดังนี้

ชมพูทวีป อยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมร (เขาสิเนรุ) ซึ่งมีธาตุมรกตอยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมร ทำให้ท้องฟ้า และมหาสมุทรของชมพูทวีปมีสีน้ำเงิน มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ คือ มนุษย์โลกนี้เอง อายุยิ่งหย่อนขึ้นอยู่กับคุณธรรม มีอายุประมาณ ๑๐๐ ปี มนุษย์ที่ชมพูทวีป มีความสูง ๔ ศอก ดอกไม้ประจำชมพูทวีป คือ "ชมพู (ไม้หว้า) "

อมรโคยานทวีป อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมร (เขาสิเนรุ) ซึ่งมีธาตุแก้วผลึกอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมร ทำให้ท้องฟ้าและมหาสมุทรของอมรโคยานทวีปมีสีแก้วผลึก มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีใบหน้าวงกลม คล้ายวงพระจันทร์ มีอายุประมาณ ๕๐๐ ปี มนุษย์ที่อมรโคยานทวีป มีความสูง ๖ ศอก ดอกไม้ประจำอมรโคยานทวีป คือ "กะทัมพะ (ไม้กระทุ่ม) "

บุพวิเทหทวีป อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมร (เขาสิเนรุ) ซึ่งมีธาตุเงินอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมร ทำให้ท้องฟ้า และมหาสมุทรของบุพวิเทหทวีปมีสีเงิน มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีใบหน้าตอนบนโค้งตัดลงมาเหมือนบาตร มีอายุประมาณ ๗๐๐ ปี มนุษย์ที่บุพวิเทหทวีป มีความสูง ๙ ศอก ดอกไม้ประจำบุพวิเทหทวีปคือ "สิรีสะ (ไม้ทรึก) "

อุตรกุรุทวีป อยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมร (เขาสึเนรุ) ซึ่งมีธาตุทองอยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมร ทำให้ท้องฟ้าและมหาสมุทรของอุตรกุรุทวีปมีสีทอง มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีลักษณะใบหน้าเป็นรูป ๔ เหลี่ยม รักษาศีล ๕ เป็นนิจ ไม่ยึดถือสมบัติ บุตร ภรรยา สามี ว่าเป็นคน มีอายุประมาณ ๑,๐๐๐ ปี มนุษย์ที่อุตรกุรุทวีป มีความสูง ๑๓ ศอก ดอกไม้ประจำอุตรกุรุทวีปคือ "กัปปรุกขะ (กัลปพฤกษ์) "


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 1 ส.ค. 2549

อนุโมทนา โปรดระบุที่มาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
sittirat
วันที่ 3 ส.ค. 2549

หลักฐานอยู่ที่นี่นะครับ สาธุ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "จูฬนีสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๒๑๕ เล่ม ๒๐ ว่า

จักรวาล ประกอบด้วยดวงจันทร์ โลก ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจร ไปร่วมกัน จะมีขุนเขาสิเนรุ (เป็นภูเขาทิพย์ที่เห็นได้เฉพาะผู้มีอภิญญา) ทวีปต่างๆ ที่ตั้งชื่อกันในสมัย นั้นคือ ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป อุตรกุรุทวีป และปุพพวิเทหทวีป มหาสมุทรทั้ง ๔ (นับกันได้ในสมัยนั้น) มีนรกขุมต่างๆ สวรรค์ชั้นต่างๆ และพรหมโลกชั้นต่างๆ

โลกธาตุ มี ๓ ขนาด คือโลกธาตุอย่างเล็ก มีจำนวนพันจักรวาล โลกธาตุอย่างกลาง มีจำนวนล้านจักรวาล โลกธาตุอย่างใหญ่ มีจำนวน แสนโกฏิจักรวาล ทั้งโลกธาตุอย่างเล็กก็ดี อย่างกลางก็ดี อย่างใหญ่ก็ดี ยังมีอีกจำนวนมากมาย "ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกดับไปในที่สุด"

กำเนิดของโลกพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "อัคคัญญสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๖๑ เล่ม ๑๑ ว่า เกิดมีน้ำขึ้นในห้วงอวกาศอันมืดมิดก่อน แล้วนานๆ ไปเกิดการรวมตัวงวดเข้าเป็นง้วนดิน แล้วพัฒนาเป็นกระบิดิน ต่อไปเป็นเครือดิน จากนั้นมีต้นข้าวและพืชทั้งหลายเกิดขึ้น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หมู่ดาว นรกขุมต่างๆ เทวโลก และพรหมโลกชั้นต่างๆ ก็เกิดขึ้นเอง

กำเนิดชีวิตพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "เพราะมีความอยาก จึงมีการเกิด เป็นสัตว์เป็นบุคคลขึ้นมา เมื่อไม่มีความอยาก การเกิดเป็นสัตว์เป็นบุคคลก็ไม่มี"

กำเนิดชีวิตในจักรวาลอื่น ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงกันอยู่ว่ามีหรือไม่มี และยังคงไม่มีใครสามารถสร้างเครื่องมือติดต่อ ค้นหาเพื่อตอบคำถามนี้ได้ แต่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แน่นอนมากว่าสองพันปีแล้วว่า "มี"

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
sittirat
วันที่ 3 ส.ค. 2549
มีหลักฐานอยู่ที่ ไตรภูมิพระร่วงด้วยครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
lovedhamma
วันที่ 10 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 23 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ