การดูแลญาติผู้ใหญ่

 
mymint2121
วันที่  25 ก.ย. 2553
หมายเลข  17264
อ่าน  2,203

การดูแลญาติผู้ใหญ่ที่เป็นศัตรูกัน เช่น เฝ้าไข้ และดูแลหลังออก รพ แล้ว โดยได้ดูแลเป็นอย่างดี ทำอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดอกุศลจิต


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 26 ก.ย. 2553

เพราะคิดว่าเขาเป็นศัตรู.....ก็เป็นศัตรู

คิดว่าเขาเป็นมิตรเมื่อไหร่.....ก็จบค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chaiyut
วันที่ 26 ก.ย. 2553

ที่เรากำลังคิดว่าคนอื่นเป็นศัตรู เขาก็ยังไม่ใช่ศัตรูตัวจริง แต่โทสะ คือ ความขุ่นเคืองความโกรธ ความผูกโกรธ ความอาฆาต ความไม่ให้อภัยต่างหาก ที่เป็นศัตรูตัวจริงครับศัตรูตัวจริงอยู่ภายใน ทำอย่างไรไม่ให้เกิดอกุศลจิต ก็คือทำอย่างไรไม่ให้เกิดศัตรูภายในเกิด...ถ้าทำได้ ทุกคนคงจะสบายใจ ไม่ต้องโกรธใครเลย แต่ความจริงทำไม่ได้ครับเราสั่งสมความโกรธและอกุศลต่างๆ มานาน ไม่มีหนทางอื่นที่จะขัดกิเลสออกได้ นอกจากจะอบรมเจริญปัญญา รู้จักธรรมตามเป็นจริง ลองฟังธรรมในเว็ปนี้บ่อยๆ ครับ ขณะที่ตั้งใจฟังธรรม เข้าใจธรรม ขณะนั้นย่อมไม่คิดว่าใครเป็นศัตรู เพราะเหตุว่ากุศลจิตเกิด แทน อกุศลจิตที่เกิดบ่อยชั่วขณะ รวมทั้งขณะที่ให้อภัย ขณะที่เมตตา ขณะนั้นก็ไม่มีศัตรูภายใน เพราะเหตุว่า ขณะนั้นเป็นกุศลจิต กุศลจะไม่เกิดพร้อมกับอกุศลครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 26 ก.ย. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การที่กุศลจิตเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นั้น เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะเหตุว่าในแต่ละวันๆ กุศลจิตเกิดมากกว่ากุศลจิต ตามภาวะของความเป็นปุถุชน ซึ่งมักจะตกไปจากกุศล ถ้าจิตไม่เป็นกุศล ก็ย่อมเป็นกุศล (เมื่อไม่กล่าวถึงขณะที่เป็นวิบาก และกิริยา) และในขณะที่จิตเป็นกุศล เป็นการเพิ่มพูนกุศลให้มากขึ้น หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ควรที่จะได้พิจารณาว่า ขณะที่จิตเป็นกุศล ไม่มีศัตรู แต่เมื่อใดก็ตามที่จิตเป็นกุศล ขณะนั้นมีศัตรู ศัตรูที่ว่านั้น คือ ศัตรูภายใน อันได้แก่ กิเลสทั้งหลาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ซึ่งประเด็นที่กล่าวถึง คือ โทสะ ไม่ว่าจะโกรธน้อย หรือ โกรธมาก ก็คือ โทสะ เป็นกุศลธรรมประการหนึ่ง ที่ไม่นำประโยชน์ใดๆ มาให้เลย ขณะที่จิตเป็นกุศล ไม่ว่าจะเป็นในกรณีใดๆ ก็ตาม ขณะนั้นศัตรูภายในได้เกิดขึ้นทำร้ายจิตใจของเราแล้ว ไม่ได้ทำร้ายเฉพาะในชาตินี้เท่านั้น ยังติดตามไปทำร้ายถึงในชาติต่อๆ ไปด้วย น่ากลัวกว่าศัตรูภายนอกที่เข้าใจกัน อย่างมาก เพราะศัตรูภายนอกสามารถทำร้ายได้เพียงชาตินี้ชาติเดียว แต่ศัตรูภายในคือกิเลส ตามไปทำร้ายจิตใจ ในภพต่อๆ ไปด้วย ดังนั้น จึงต้องอาศัยพระธรรม ที่ผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง จึงจะสามารถออกไปจากวงล้อมของศัตรูภายในทั้งหลายเหล่านี้ได้ และสามารถที่จะทำอะไรๆ ในชีวิตประจำวันด้วยจิตที่เป็นกุศลเพิ่มขึ้นได้แทนที่จะเป็นกุศล พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชีวิตของแต่ละบุคคล เพื่อให้พิจารณาตัวเองเป็นสำคัญ เพื่อขัดเกลากิเลส อันเป็นศัตรูที่แท้จริงให้เบาบางลง จนกว่าจะสามารถดับได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานในการอบรมเจริญปัญญาต่อไป ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mymint2121
วันที่ 27 ก.ย. 2553

ขอบพระคุณมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 28 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 29 ก.ย. 2553

ให้เข้าใจความเป็นอนัตตา ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ ปกติธรรมดา

จิตเป็นอกุศลอยู่แล้ว ถ้าไม่เป็นไปในทาน ในศีล ในภาวนา ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 30 ก.ย. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
สุภาพร
วันที่ 30 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
opanayigo
วันที่ 4 ต.ค. 2553

ขออนุญาตร่วมแบ่งปัน

เข้าใจคำถามค่ะ เพราะเคยประสบเหตุการณ์คล้ายๆ กันมาก่อน ก็เป็นชีวิตปกติ

ห้ามสภาพธรรมไม่ให้เกิดไม่ได้ และก็ไม่เลือกเวลาด้วยว่า จะหลงลืมหรือระลึกได้

สภาพโทสะเห็นง่าย หยาบกระด้าง เกิดโทมนัส (ไม่ต้องการ) เมื่อยังมีความผูกพัน

ไม่ว่าญาติ ฯลฯ ในชีวิตธรรมดาๆ ก็ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยนั้น

.....................

ให้สังเกตว่า ที่เดือดร้อนจริงๆ คืออะไร

ขณะนั้น เป็นอย่างไร

ยังละไม่ได้ แต่ค่อยๆ เข้าใจทีละนิดๆ

เป็นเราเมื่อไร

ก็เดือดร้อนเมื่อนั้นค่ะ :)

สุขเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ

ทุกข์เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ

หมุนเวียนไปแบบนี้

......................

การฟังธรรมเสมอ ย่อมอุปการะ

ด้วยความเป็นมิตร

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
บัวขาว
วันที่ 6 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ