แค่ทำความดียังยาก

 
เมตตา
วันที่  28 ก.ย. 2553
หมายเลข  17281
อ่าน  1,433

ในชีวิตปกติประจำวัน อกุศลจิตเกิดมากกว่ากุศลจิตตามการสะสมมาในอดีตแต่ละภพชาติ การกระทำทางกาย ทางวาจาก็ย่อมเป็นไปในทางทุจริตมากกว่าสุจริต โอกาสที่จะทำความดีก็เกิดน้อยมาก แค่เมตตาต่อผู้อื่นมีมากไหมในแต่ละวัน ผู้ที่ศึกษาพระ-ธรรมในปัจจุบันนี้ไม่ได้เข้าใจพระธรรมจริงๆ มุ่งปฏิบัติธรรมโดยไม่รู้ว่า ปฏิบัติธรรมคืออะไร ธรรมะคืออะไร แต่มุ่งปฏิบัติเพื่อจะดับกิเลสโดยเร็วเพื่อการบรรลุธรรม...

แค่ทำความดียังยาก

จะละกิเลสยากไหม?

ขออนุโมทนาในกุศลของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Surasak_sun
วันที่ 28 ก.ย. 2553

อนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chaiyut
วันที่ 28 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ" เจริญเหตุให้สมควรแก่ผล "

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 28 ก.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณเมตตาครับ

ท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า การศึกษาธรรมะ

ให้พึ่งศึกษา ตามมี ตามได้

อย่าไป อยากมี อยากได้

เพราะความอยากจะเป็นเครื่องหน่วงรั้งทุกสิ่ง

ผมก็พยายามน้อมนำตามคำสั่งสอนของท่านอาจารย์

แต่ก็เผลอกับความอยากอยู่เสมอๆ

โดยเฉพาะความอยากรู้ อยากเห็น อยากเข้าใจ ในพระธรรม

ทำให้ตนเองเดือดร้อน และเกิดความกลัวว่า

หากตายไปภายในวันนี้ พรุ่งนี้ เราจะได้ฟังได้อบรมพระธรรมจากผู้รู้ผู้มีเมตตา

อธิบายให้เข้าใจถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริง อย่างท่านอาจารย์ คณะวิทยากรและกัลยาณมิตรแบบปัจจุบันชาติหรือไม่

เมื่อคำนึ่งถึงเรื่องนี้ครั้งใด เป็นวิตกจริตทุกทีครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ผิน
วันที่ 28 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ประสาน
วันที่ 30 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 1 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peesilp
วันที่ 3 ต.ค. 2553

ความดีทำแล้วเห็นผลช้า หากไม่มุ่งมั่นมากพอจิตใจก็จะไม่มั่นคงจึงเกิดความท้อแท้ท้อถอยและเลิกทำไปเองความดีที่ตั้งใจไว้ก็ไม่สำเร็จอย่างเช่น นักกีฬา จะต้องขยันฝึกซ้อมอย่างหนัก ขยันและอดทนอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงวันแข่งขัน เพื่อ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ