ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา ปริญัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ท่านกัลยาณมิตรทุกท่าน
ดิฉันได้อ่าน ฟัง มาหลากหลายว่าการสร้างกุสลเพื่อหลุดพ้นทุกข์ตามพระพุทธวัจจนะนั้น มีมากมายที่จัดกลุ่มได้คือ
๑. ทาน ศีล ภาวนา
๒. ศีล สมาธิ ปัญญา
๓. ปริญัตติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ดิฉันมีความสงสัยว่า ทั้งสามกลุ่มนี้ ข้อ๑ และ๒ เหมือนกันตรงศีลแต่ข้ออื่นๆ ไม่เหมือนกันเลย
จึงขอเรียนท่านวิทยากรช่วยชี้แนะถึงความเชื่อมโยงของสามกลุ่มนี้ด้วยค่ะ
และ เราที่เป็นปุถุชนนี้ควรจะสร้างกุสลในกลุ่มไหนนอกจากการฟังธรรมให้รู้ตามสภาพที่ปรากฏแบบที่อาจารย์สุจินต์สอนอยู่นี้
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอเรียนว่า การแสดงพระธรรมของพระพุทธองค์ ส่วนใหญ่ ทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้ฟัง ในบางแห่ง แสดงกับคฤหัสถ์ แสดงกุศล ๓ ระดับ ทาน ศีล ภาวนา แต่ถ้าแสดงกับบรรพชิต ส่วนใหญ่ไม่กล่าวถึงกุศลขั้นทาน เพราะท่านออกบวช สละวัตถุกามแล้ว จึงทรงแสดงกุศลที่ยิ่งขึ้นไป ศีล สมาธิ ปัญญา ก็รวมลงใน ศีลและภาวนาสำหรับลำดับของการศึกษาอบรมเจริญปัญญา ควรเป็นไปตามลำดับ ตั้งการฟัง การศึกษาพระธรรมคำสอน ต่อมา จึงมีการระลึกรู้สภาพธรรมตามที่ศึกษามา และเมื่อเหตุสมควรแก่ผล ผลคือปฏิเวธ ย่อมเกิดขึ้น ดังนั้นทั้งหมดก็สอดคล้องกัน และไม่จำเป็นต้องไปโยงกันก็ได้ ศึกษาเพื่อเข้าใจ อบรมเจริญกุศลทุกประการครับ
ทาน ศีล ภาวนา .......เป็นโอกาสที่ กุศลจิตเกิด เพราะนอกจากนี้แล้ว ก็เป็นอกุศลศีล สมาธิ ปัญญา .....เป็นโอกาสที่จะเข้าใจธรรม ให้เป็นหมวดหมู่ เป็นการเข้าใจที่ มั่นคงจนจดเยื่อในกระดูกปริญัตติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ....เป็นโอกาสที่จะศึกษาธรรมให้ถูก ต้องตามลำดับ ไม่หลงใน มิจฉาทิฏฐิ