คำว่าสติขั้นศีล
สติเจตสิก มีลักษณะระลึก เมื่อเกิดกับกุศลขั้นใด ก็กระทำกิจระลึกสติขั้นทาน ก็ระลึกเป็นไปในการให้ทาน ไม่หลงลืมที่จะให้ทานสติขั้นศีล ก็ระลึกเป็นไปในศีล วิรัติงดเว้นจากทุจริตทางกายวาจาสติขั้นสติปัฏฐาน ก็ระลึกรู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
ขณะใดที่สติเกิดไม่ว่าจะเป็นขั้นทาน ขั้นศีล ขั้นภาวนา ขณะนั้นเป็นกุศล ขณะใดที่หลงลืมสติ ขณะนั้นเป็นไปกับโลภะ โทสะ โมหะ ขณะนั้นเป็นอกุศล เพราะฉะนั้นเวลาที่สติเกิด จึงทำหน้าที่เป็นเครื่องกั้นของอกุศลธรรมทั้งหลายค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สติ เป็นธรรมที่มีจริงประการหนึ่ง ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ใช่เรา สติ เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม เกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภท สติ เป็นสภาพธรรมที่ระลึกได้ เป็นไปในกุศล ทั้งในขั้นของทาน ศีล และ ภาวนา (การอบรมเจริญความสงบของจิต และ การอบรมเจริญปัญญา) สติจึงเป็นธรรมที่จำปรารถนาในที่ทั้งปวง เพราะเหตุว่าชีวิตในวันหนึ่งๆ ที่เต็มไปด้วยอกุศล เต็มไปด้วยอวิชชา ความหลง ความไม่รู้ ขณะนั้นหลงลืมสติ เพราะจิตเป็นอกุศล ไม่เป็นกุศล ไม่สามารถที่จะพิจารณาสภาพธรรมในชีวิตประจำวันได้ตามความเป็นจริง จนกว่าสติจะเกิดเมื่อใด มีการระลึกได้แม้ในเหตุในผล ในความถูกต้อง ในความเหมาะควรในชีวิตประจำวัน ขณะใด ขณะนั้นก็เป็นการเกิดขึ้นของสติ ซึ่งไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้เลย สติ เมื่อได้เหตุได้ปัจจัยก็เกิดขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามการที่กุศลธรรมจะเกิดขึ้นได้นั้น ก็เพราะสติเกิด ระลึกได้ แม้ในเรื่องของศีล ซึ่งเป็นความประพฤติเป็นไปทางกาย ทางวาจา งดเว้นจากความประพฤติ ที่ไม่ดีทางกายทางวาจา แล้วประพฤติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ที่เป็นอย่างนี้ได้ ก็เพราะสติเกิด ระลึกได้นั่นเอง ไม่ใช่เรา ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขณะที่กำลังรู้ตัวว่ากำลังโกรธ ความโกรธก็กำลังดำเนินไปอยู่ และกระทำ พูด คิดตามความโกรธของตนอยู่ เป็นการรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฎ ตามความเป็นจริงไหม เป็นสติไหมครับ
ขณะกำลังโกรธอยู่ เป็นอกุศลรู้ก็ได้ เป็นสติรู้ก็ได้ อาจจะสลับกันก็ได้ สติสัมปชัญญะ ย่อมรู้ได้ว่า ขณะนั้นรู้ ด้วยจิตประเภทไหน..