ทำอย่างไรจึงจะพ้นวิบากกรรม

 
domo
วันที่  24 ต.ค. 2553
หมายเลข  17434
อ่าน  2,876

ทำอย่างไรจึงจะพ้นวิบากกรรมหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 25 ต.ค. 2553

พระธรรมแสดงว่า เมื่อเหตุมีแล้วผลย่อมมี ผลที่เกิดขึ้นย่อมสมควรแก่เหตุ ทำดีที่สุด อะไรจะเกิดก็เกิด เข้าใจตามความเป็นจริงว่า เป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่ง เกิดเพราะปัจจัย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา เมื่อเกิดมาในโลกก็ย่อมประสบสิ่งเหล่านี้ ทั้งดีและไม่ดี ตามเหตุที่ทำไว้ ทั้งหมดเป็นธรรมประจำโลก พระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า โลกธรรม ขอเชิญคลิกอ่านพระธรรม ที่ทรงแสดงการพิจารณา โลกธรรม ของพระอริยะ ที่กระทูโลกธรรม ๘ ประการ [โลกวิปัตติสูตร]

เข้าใจลักษณะของสภาพธรรม เช่นเรื่องของ โลกธรรม

ความเข้าใจสภาพธรรม ๐๑ ...... โลกธรรม ๘ ประการ

ความเข้าใจสภาพธรรม ๐๒ ...... ผู้ไม่ถูกโลกธรรมครอบงำ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
choonj
วันที่ 25 ต.ค. 2553

ขณะที่อกุศลวิบากเกิดนั้น จะคิดจะทำจะปฎิบัติเพื่อจะผ่อนหนักเป็นเบานั้น ไม่น่าจะทำได้ เพราะผลของกรรมนั้นยุติธรรมเสมอ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาธรรมทุกสิ่ง ก็จะเป็นไปตามกรรมโดยไม่รู้สาเหตุ แต่สำหรับผู้ที่ศึกษาธรรมแล้ว ก็พอที่จะได้คำตอบของสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าคำตอบนั้นคือ "ต้องเป็นเราเพราะเราได้ก่อไว้" ความรู้สึกขณะนั้นก็จะต่างกับผู้ที่ไม่ได้ศึกษาธรรม เมื่อมีความรู้สึกดีกว่า ก็ดูเหมื่อว่าได้ผ่อนหนักเป็นเบา แท้จริงแล้วก็ต่างกันเพราะความรู้สึก การศึกษารู้ธรรมก็จะช่วยในการที่จะผ่อนหนักเป็นเบาในตัวมันเอง จึงไม่ควรเว้นการศึกษาให้เข้าใจ ......ฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 25 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
domo
วันที่ 25 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yupa
วันที่ 26 ต.ค. 2553

ท่านอาจารย์สุจินต์ กล่าวอยู่ประโยคหนึ่งที่ว่า "กรรมยุติธรรมเสมอ" เป็นประโยคที่เตือนสติและตอกย้ำให้เชื่อมั่นว่า ทำดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Noparat
วันที่ 26 ต.ค. 2553

สมบัติสามารถแบ่งให้กันได้ แต่กรรมของใคร ก็เป็นของบุคคลนั้น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอดีตกรรมได้เลย เพราะฉะนั้น จงทำกรรมในชาตินี้ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เพราะเหตุย่อมสมควรแก่ผล ค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peesilp
วันที่ 26 ต.ค. 2553

ทำเหตุอย่างไรถึงได้ส่งผลเช่นนั้น เหตุและผล ย่อมสอดคล้องและสัมพันธ์กันอย่างแนบเนียน แยบคาย ทำกรรมดีส่งผลดี กรรมไม่ดีส่งผลไม่ดี ปลูกมะม่วงย่อมได้ผลเป็นมะม่วง ระหว่างนั้นให้ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน ด้วยความอดทนอย่างต่อเนื่อง รอเวลาออกดอกออกผล เงื่อนไขนั้นคือ...เวลา ดูคนดีให้ดูนานๆ ดูผลของกรรมก็ต้องดูนานๆ เช่นกัน วิธีแก้คือหยุดสร้างกรรมไม่ดี หมั่นสร้างและทำแต่กรรมดีในชีวิตที่เหลืออยู่ผลของกรรมดีจะบรรเทาวิบากกรรมเบาบางลง และหมดสิ้นไปได้ในที่สุด

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
สมศรี
วันที่ 27 ต.ค. 2553

การได้ศึกษาพระธรรม โดยการอ่าน การฟังพระธรรมให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลัง ปรากฏตามความเป็นจริง ได้อย่างถูกต้อง บ่อยๆ เนืองๆ จนเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งจิตให้เข้าใจเหตุและผล กรรม วิบาก เป็นสิ่งเกิดขึ้นแล้ว ที่กำลังเกิดขึ้นและกำลังจะดำเนินต่อไปอีกเป็นสังสารวัฏฏ์ฏ หมั่นฟังพระธรรมอย่างต่อเนื่อง ละเอียด จะเข้าใจมั่นคงขึ้นทีละน้อยๆ ไม่มีเราที่ทำ เป็นเพียงสภาพธรรมเท่านั้น ความทุกข์จะลดลง แต่นั่นก็เพราะความเป็นเราจึงทำให้เราทุกข์

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
van77
วันที่ 31 ต.ค. 2553

ศึกษาเรื่องกรรมให้ลึกซึ้ง โยนิโสมนสิการให้มากๆ จะได้สบายใจ เดี๋ยวเรื่องราวร้ายๆ ก็ผ่านไป

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ