ได้ฟังพระธรรม ต้องอาศัยกุศลกรรมในอดีต
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นให้ทราบว่า ไม่ใช่เรื่องจะทำ แต่เป็นเรื่องการอบรมเจริญ แล้วก็ให้พิจารณา ดูชีวิตของทุกท่านในอดีตแสนโกฏิกัปป์ ไม่ใช่ว่าท่านจะไม่เคยเกิดมาเลย เคยเกิดมาแล้วก็ตายๆ ๆ ๆ นับชาติไม่ถ้วนในแสนโกฏิกัปป์ และผลคือปัญญาในชาตินี้มีแค่ไหน นี่เป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ การค่อยๆ เจริญเติบโตของปัญญา เพราะว่าถ้าไม่เคยฟังในอดีตมาเลย ไม่มีการที่จะสนใจฟังอีก เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ยากเกินไปและไม่สามารถที่จะรู้ได้เพียงในชาติเดียว เพราะฉะนั้น บางคนก็อาจจะท้อถอย ด้วยความหวังในผล และถ้าเป็นผู้ที่ท้อถอยมาก ก็จะหันไปสู่การปฏิบัติอย่างอื่น เพราะว่าไม่ได้เป็นผู้ที่ตรงต่อเหตุผลจริงๆ ว่า ถ้าจะต้องประจักษ์การเกิดดับ ของสภาพธรรมในขณะนี้ ก็จะต้องเริ่มระลึกศึกษา รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเอง เมื่อเป็นอย่างนี้ ชาตินี้ระลึกเท่าไรแล้ว ปัญญาพิจารณา เริ่มรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม บ้างเท่าไร นี่เป็นผลของการสะสมอบรมในแสนโกฏิกัปป์ซึ่งปัจจุบันชาตินี้เป็นการพิสูจน์การสะสม ซึ่งได้ผ่านมาแล้วแสดงให้เห็นว่าน้อยแค่ไหน
เพราะฉะนั้น จะต้องไปอีกกี่กัปป์ คือ ถ้าไม่เทียบกับชาตินี้ ก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าก่อนๆ นั้นไม่ใช่ว่า ไม่เคยอบรม ไม่ใช่ไม่เคยฟัง ไม่ใช่สติปัฏฐาน ไม่เคยเกิดเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วแสนกัปป์ ย่อลงมาอีกก็ได้ แต่ว่าปัจจุบัน ที่ได้อบรมมาแล้ว ทั้งๆ ที่อบรมมาแล้วแสนกัปป์ หรืออาจจะไม่ถึง ก็ตามแต่ แต่ว่าหลายชาติ ขณะนี้มีความเข้าใจแค่ไหน
นี่คือผู้ที่ตรงจริงๆ เพราะฉะนั้นพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มี พร้อมที่จะให้พิสูจน์ แต่่ไม่ใช่ง่าย และต้องเป็นการอบรมความเข้าใจที่ถูกต้องจริงๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องทำไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้เพราะว่าไม่ใช่ให้ทำ ไม่ใช่ให้ไปฏิบัติ แต่อบรมความเข้าใจให้เพิ่มขึ้น จนกระทั่งเป็นปัญญาแต่ละขั้น
ข้อความในปรมัตถทีปนี อรรถกถา ขุททกนิกาย ปัญจกนิบาต สุภูตเถรคาถาที่ ๒
ท่านพระ สุภูตเถระ กล่าวคาถามีข้อความตอนหนึ่งว่า "เราถูกหลอกลวง ด้วยมติของพวกเดียรถีย์ จึงประกอบในสิ่งที่ไม่ควรประกอบ"
การที่ใครจะมีโอกาสได้ยินได้ฟัง พระธรรม ก็เป็นสิ่งซึ่งต้องอาศัยกุศลกรรมในอดีต ที่ได้สะสมผันมาให้พบ ได้รับฟังพระธรรม
เพราะว่าหลายท่านที่ได้สนทนาด้วย ท่านได้กล่าวว่า ท่านหมุนเจอวิทยุรายการนี้โดยที่ไม่่่มีใครแนะนำเลย นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่มีอดีตกรรมที่ได้สะสมมาแล้วก็คงจะไม่ได้ฟังธรรมทางสถานีวิทยุ หรือว่า ถ้าฟังแล้วก็อาจจะไม่สนใจ
แต่สำหรับท่านที่มีการสะสมมาแล้ว พอฟังท่านก็สนใจทันที รู้ว่าเป็นสี่งซึ่งมีจริง แล้วสามารถที่จะฟัง พิจารณา ศึกษา ให้เข้าใจขึ้นได้
"...เพราะว่าหลายท่านที่ได้สนทนาด้วย ท่านได้กล่าวว่า ท่านหมุนเจอวิทยุรายการนี้ โดยที่ไม่่่มีใครแนะนำเลย นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่มี อดีตกรรม ที่ได้สะสมมาแล้ว ก็คงจะไม่ได้ฟังธรรมทางสถานีวิทยุ หรือว่า ถ้าฟังแล้วก็อาจจะไม่สนใจ
แต่สำหรับท่านที่มีการสะสมมาแล้ว พอฟังท่านก็สนใจทันที รู้ว่าเป็นสิ่งซึ่งมีจริง แล้วสามารถที่จะฟัง พิจารณา ศึกษา ให้เข้าใจขึ้นได้..."
เป็นผู้หนึ่ง ที่ได้พบกับพระธรรมที่ท่านอาจารย์บรรยายทางสถานีวิทยุ ครับ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ และ ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน รวมทั้งท่านผู้สละทรัพย์เพื่อให้มีการออกอากาศทุกท่าน ซึ่งคุณหมอก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ข้าพเจ้าเคยได้ยินท่านอาจารย์กล่าวว่า ท่านเองก็ชอบฟังจากวิทยุ เพราะไม่รู้ก่อนว่า วันนี้ เขาจะให้ฟังเรื่องใด
แสดงควาคิดเห็นว่า เป็นไปตามหลักของ อิทัปปัตยตา ครับ จึงมีโอกาสได้รับฟังพระธรรม
..สาธุ
ถ้าจะต้องประจักษ์การเกิดดับ ของสภาพธรรม ในขณะนี้ ก็จะต้องเริ่มระลึกศึกษา รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เมื่อก่อนนี้ข้าพเจ้ามีความอยากจะประจักษ์การเกิดดับ ของสภาพธรรม จึงไปนั่งสมาธิเพื่อให้ปัญญาเกิดขึ้นประจักษ์การเกิดดับของสภาพธรรม ถ้าไม่มีอดีตกุศลกรรม ที่ได้สะสมมาแล้วก็คงไม่ได้พบคำบรรยายจากท่านอาจารย์...
ท่านสอนให้รู้ว่า ปัญญาเกิดจากการเริ่มระลึกศึกษา รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องจะทำ...แต่เป็นเรื่องการฟังให้เข้าใจ ค่อยๆ อบรมเจริญความเข้าใจในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเพิ่มขึ้น เพราะความเข้าใจก็คือปํญญา
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ ค่ะ