ควรได้ประโยชน์ จากการเกิดเป็นมนุษย์

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  3 พ.ย. 2553
หมายเลข  17474
อ่าน  3,938

ไม่ว่าจะได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ในส่วนใดก็ตาม ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ก็เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง และเพื่อความไม่ประมาทในชีวิต เพราะเหตุว่าในที่สุดแล้ว ทุกคนก็จะต้องตาย แต่ก่อนที่จะตาย ซึ่งก็ไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เป็นวันใด เวลาใด นั้น ก็ ควรที่จะได้ประโยชน์ จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด

แสวงหาสิ่งที่เป็นสาระให้กับชีวิตให้มากที่สุด ประโยชน์หรือสาระที่ว่านั้น ได้แก่ ความเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง อันเกิดจากการฟัง การศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องสะสม เป็นที่พึ่งต่อไป พร้อมกับน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม (เป็นคนดี ควบคู่ไปกับการฟังพระธรรม) จนกว่าจะถึงการดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนาน ในการอบรมเจริญปัญญา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 3 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Jesse
วันที่ 3 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
choonj
วันที่ 5 พ.ย. 2553

นั้นนะซินะ คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย แล้วก็รู้อีกว่าสิ่งทั้งปวงล้วนเกิดดับเป็นเรื่องเป็นราวต่างๆ ล้วนไร้สาระ มีขึ้นตั้งอยู่เป็นทุกข์เป็นสุขแล้วก็หามีไม่ แล้วก็อยู่อย่างนี้ตั่งแต่เล็กจนโต แล้วเกิดมาทำไมอยู่กับสิ่งที่ไร้สาระวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ น่าท้อแท้น่าเหนื่อยใจถ้าไม่อยากเกิดอีก ก็พบทางแล้ว แต่ยังไม่มีปัญญาก็ต้องเป็นอยางนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 22 พ.ค. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 25 ส.ค. 2554

....ควรที่จะได้ประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด แสวงหาสิ่งที่เป็นสาระให้กับชีวิตให้มากที่สุด ประโยชน์หรือสาระที่ว่านั้น ได้แก่ ความเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง อันเกิดจากการฟัง การศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวันซึ่งจะต้องสะสมเป็นที่พึ่งต่อไป พร้อมกับน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม...

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
intra
วันที่ 1 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เข้าใจ
วันที่ 19 เม.ย. 2555

การได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นการยาก แต่การได้ฟังธัมมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นหาได้ยากยิ่ง ก็ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์เป็นอย่างมากๆ ที่ได้นำเอาพระธัมมะออกเผยแพร่ให้ผู้ใฝ่ธัมมะได้ศึกษา ผมเป็นผู้นึงที่ติดตามฟังอยู่ครับ ธัมมะนั้นถ้าฟังเพื่อจะจดจำนั้น ตัวผมคงจะจำไม่ได้ เพราะสัญญาไม่ค่อยดี แต่เพียงให้เป็นปัจจัยให้สติเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะถ้าวันนึงๆ สติความรู้ตัวไม่เกิดเลย ผลคืออกุศลจะเจริญเพิ่มขึ้นมากไม่ว่าจะทำอะไรๆ ก็เป็นอกุศล ถ้าไม่มีสติ

ผมจึง เข้าใจว่าการได้ฟังธัมมะเป็นการทำให้สติและปัญญาเจริญขึ้น เพราะได้พิจารณาตามรู้ ตามดูประตูทั้ง 6 มีปิด มีเปิดสลับกันไปแล้วแต่ประตูไหนจะมีกำลังมาก มีกำลังมากก็เปิดก่อนแป๊บเดียวก็ปิด เปลี่ยนไป เปลี่ยนมาอย่างนี้หรือคือสภาพธัมมะชนิดนึง เขาเปลี่ยนไปเอง เปลี่ยนไปดับไปๆ ๆ ไม่มีอะไรกลับมาอีกเลยเมื่อมีเหตุ มีปัจจัยก็เกิดใหม่

หมดเหตุ หมดปัจจัย ก็ไม่เกิดดูๆ เหมือนจะง่าย แต่ยากเยอะครับ

ขอความเจริญในกุศลและปัญญาจงมีแด่ทุกท่านครับ

ขออนุโมทนา สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jaturong
วันที่ 1 มิ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ปวีร์
วันที่ 2 ส.ค. 2555

ขอบคุณมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pamali
วันที่ 22 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
nopwong
วันที่ 15 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
papon
วันที่ 27 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
คุณตาใจบุญ
วันที่ 14 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
guy
วันที่ 14 ต.ค. 2556

อนุโมทนา สาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
วิริยะ
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
talaykwang
วันที่ 13 ต.ค. 2563

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
nattawan
วันที่ 15 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ