ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ของแต่ละท่าน

 
pirmsombat
วันที่  14 พ.ย. 2553
หมายเลข  17521
อ่าน  2,039

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นเรื่่องของสภาพธรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดซึ่งก็เป็นสภาพธรรมที่เรีมตั้งแต่เกิด แล้วก็ แก่ เจ็บตาย สุขทุกข์ เห็นได้ยิน ทั้งหมดล้วนเป็นสภาพธรรมในชีวิตประจำวันทั้งสี้น ซึ่งชาติก่อนๆ ก็เคยเป็นอย่างนี้มาแล้ว เคยเกิดแล้ว เคยแก่แล้ว เคยเจ็บแล้ว เคยตายแล้ว เคยสุขแล้วเคยทุกข์แล้วทั้งหมด แล้วก็หมดไป เพราะฉะนั้นสังสารวัฏฏ์จะไม่สี้นไป เพราะว่าจะต้องมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้ มีการเกิดแล้วเกิดอีก เจ็บแล้วเจ็บอีก ตายแล้วตายอีก ซึ่งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนก็จะต้องรู้ความจริงว่า วันหนึ่งก็ต้องตาย เหมือนคนอื่นๆ ซึ่งตายไปแล้ว เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ควรที่จะได้พิจารณาว่า วันที่จะจากโลกนี้ไป จะจากไปด้วยปัญญา ทีได้อบรมจนกระทั่งเจริญขึ้นหรือว่าจะจากไปโดยที่ว่า ไม่สนใจที่จะไม่อบรมเจริญปัญญา เพราะฉะนั้นก็จากโลกนี้ไปด้วยความมัวเมา ติดข้อง เพลิดเพลิน ในลาภ ในยศ ในสักการะ ในสรรเสริญ ซึ่ง ชั่วขณะจิต แล้วก็จะไม่ติดตามไปสู่โลกหน้าเลย

ขณะนี้ทุกคนมีร่างกาย ซึ่งก็เคยเป็นที่รัก หรือว่าขณะนี้ก็ยังเป็นที่รัก ที่พอใจ ก็ให้ทราบว่า ร่างกายนี้ก็ต้อง เปื่อย เน่า ผุ พัง แล้วชาติหน้ารูปร่าง จะเป็นอย่างไร ไม่ได้เป็นอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วแต่ จิต เจตสิก การกระทำทางกาย ทางวาจา ในชาตินี้ จะทำให้ อกุศลจิตเกิดครอบงำ ที่จะให้ร่างกาย ในชาติต่อไป พิกลพิการ ตา หู จมูก ไม่น่าดู หรือกระทั่งทำให้ถึง สภาพของเปรต อสุรกาย สัตว์นรก

นี่ก็สี่งซึ่งชั่วขณะจิตที่เร็วมาก เร็วยี่งกว่ากระพริบตา เพราะสามารถที่จะเปลี่ยนสภาพนี้ทั้งหมดจากมนุษย์ในสุคติภูมิ ไปสู่อบายภูมิได้แต่สำหรับผู้ที่ฟังพระธรรมแล้ว ย่อมจะได้รับประโยชน์จากพระธรรม ตามลำดับของ ปัญญาและการสะสม ซึ่งเป็นที่น่าอนุโมทนา

เวลาที่ท่านผู้ฟังบางท่านสนทนาด้วย แล้วท่านก็ได้เล่าประสพการณ์ในชีวิตของท่านให้ฟัง
เช่นท่านผู้หนึ่งท่านก็เล่าถึงชีวิตของท่านว่า มีผู้ที่ขอยืมเก้าอี้ท่านไปใช้ แต่ว่าไม่ส่งคินสักที ใจของท่านก็อยากจะใช้เก้าอี้ตัวน้น เพราะว่าท่านก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ แล้ววันหนึ่งท่านก็อุตส่าห์เดินลงไปถึงชั้นล่าง ซึ่งเขายืมเก้าอี้ไป แล้วก็บอกว่าจะต้องใช้เก้าอี้นี้แล้ว เพราะฉะนั้นก็ยกเก้าอี้จากชั้นล่างขึ้นชั้นบน ด้วยความเหน็ดเหนื่อยร่างกาย แล้วก็หนักใจด้วย เพราะว่าในขณะนั้นเป็นอกุศลซึ่งมีกำลัง เป็นความเร่าร้อนที่จะได้ แต่พอขึ้นไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วท่านก็นึกว่าถ้าท่านปราถนาพระนิพพานแล้วเพียงเท่านี้ก็ยังละไม่ได้ สละไม่ได้ท่านจะถึงพระนิพพานได้อย่างไร คราวนี้ท่านก็ยกเก้าอี้ลงไปข้างล่าง ตัวเบาโล่งใจ จิตผ่องใส ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขณะใดที่สติไม่เกิด อกุศลเกิด อกุศลก็ทำกิจของอกุศลเต็มที่ ที่จะคิด ที่จะชนะ ที่จะคิดที่จะไม่เอื้อเฟื้อ ที่จะคิดที่จะทำด้วยความรุนแรงต่างๆ มีการหอบหี้ว ดึงลากขึ้นไปด้วยความหนักความเหนื่อย แต่พอนึกขึ้นได้ก็เบาหมด แล้วก็ก็ยกเก้าอี้ลงไปให้และให้เขาใช้ แล้วไม่เอาคืน เพราะว่าท่านก็จะจัดหาซื้อใหม่ ด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่ง เพราะว่าถ้าเพียงเท่านี้ยังเกิดกุศลไม่ได้ แล้วจะถึงพระนิพพานได้อย่างไร

เพระฉะนั้น ประโยชน์ของการฟังของแต่ละท่านๆ จะไม่ทราบเลยนะคะว่า จะเป็นสังขารขันธ์ ที่จะปรุงแต่งให้สติ มีการระลึกได้ ที่จะเป็นกุศลในระดับใด

อีกท่านหนึ่ง ก็มีบุตรที่กำลังเรียนหนังสือ แล้วก็ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลจากการวินิจฉัยและการตรวจสอบของหมอ ผลสุดท้ายคือบุตรของท่านพิการ ท่านมีความทุกข์มาก จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ แต่ว่าจากการฟังพระธรรม และได้พิจารณาสภาพธรรม หลังจากที่ท่านไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ เพราะความเสียใจ ที่ท่านจะต้องเป็นภาระกับบุตรของท่านที่พิการ และมีการคิดมากเรื่องอนาคตต่างๆ

ผลจากการฟังพระธรรม ทำให้ท่านเห็นลูกเหมือนเห็นแขก เพราะลูกจะมาจากชาติไหน เป็นใครก็ไม่ทราบ แล้วจะ ไปสู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตน เพราะฉะนั้น ขณะที่เห็นลูก ความรู้สึกของท่าน ก็เหมือนกับเห็นแขกจริงๆ

และท่านผู้นี้ก็เป็นผู้ที่บริจาคที่ดินให้มูลนิธิที่ ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นี่ก็แสดงให้เห็นว่า แต่ละชีวิตแล้วแต่กำลังของกุศล ซึ่งเป็นพละ ดิฉันก็ได้เรียนถึงเรื่อง บุตร ธิดา ตอนที่ท่านบริจาค ท่านก็บอกว่า ลูกของท่านเขาก็มีกรรมเป็นของเขา ไม่ว่าท่านจะให้สมบัติ แต่ถ้าเขาไม่มีบุญที่จะได้รับ หรือว่าสมบัตินั้นจะต้องหมดสี้นไป แม้ท่านมอบให้ สมบัตินั้นก็หมดไป

แต่ถ้าลูกของเขามีบุญ กรรมเป็นของเขาเอง ถึงท่านไม่มอบให้ บุญของเขาเขาก็จะนำสมบัติต่างๆ มาให้ได้ เพราะฉะนั้นท่านจึงมีความประสงค์จะมอบให้มูลนิธิฯ เพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางพระธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 15 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pirmsombat
วันที่ 15 พ.ย. 2553

ขอบคุณและอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 15 พ.ย. 2553

กราบอนุโมทนาท่านอจ.และขอบพระคุณ

ขอ อนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pirmsombat
วันที่ 15 พ.ย. 2553

ขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านครับ

ผมมีข้อมูล และมี ความสุข ความพอใจ ความปิติ อีกมาก ที่จะเจริญกุศล โดยเฉพาะธรรมทาน ถ้าเป็นประโยชน์กับท่านทั้งหลายบ้าง

ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดในพระธรรม และท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
aiatien
วันที่ 15 พ.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jesse
วันที่ 15 พ.ย. 2553

ขออนุโมทนาด้วยนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สุภาพร
วันที่ 21 ธ.ค. 2553
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
aditap
วันที่ 21 ธ.ค. 2553

เป็นความจริงที่ ไพเราะ อย่างยิ่งครับ

ขอขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Jans
วันที่ 24 ธ.ค. 2553
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอเพิ่มคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ