พระไตรปิฎก กับ บ้านของปุถุชน

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงพระธรรม ประกาศพระศาสนา​ ตลอด ๔๕ พรรษา พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจ และน้อมประพฤติ ปฏิบัติตาม ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง มีจำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งเทวดา พรหม และมนุษย์ แล้วพระธรรมก็มีการทรงจำสืบต่อมาจนถึงสมัยปัจจุบันเป็นพระไตรปิฎก พระไตรปิฎกหมายถึงคำสอน ๓ หมวดหมู่ คือพระวินัยปิฎก (ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความประพฤติทางกาย ทางวาจา สำหรับเพศบรรพชิต) พระสุตตันตปิฎก (เป็นพระธรรมเทศนาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ณ สถานที่ต่างๆ ทรงปรารภบุคคลต่างๆ ซึ่งทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้ฟังเป็นหลัก) และพระอภิธรรมปิฎก (ไม่มีชื่อของสัตว์ บุคคล แต่เป็นเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมด) ซึ่งทั้งสามปิฎกนั้นมีคุณค่ามากมายมหาศาลหาอะไรเปรียบไม่ได้เลย ถ้าพุทธบริษัทได้ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ โดยไม่ใช่ศึกษาเพื่อเก่ง เพื่อรู้เรื่องราวเยอะๆ หรือเพื่อลาภ สักการะ แต่ศึกษาเพื่อความเข้าใจจริงๆ ตรงตามพระธรรม จึงจะเป็นประโยชน์ ดังนั้น สำคัญอยู่ที่ความเข้าใจจากการได้ศึกษา ด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ว่าตู้พระไตรปิฎก กับหนังสือพระไตรปิฎก จะอยู่ ณ ที่ใด จะอยู่ที่บ้าน หรืออยู่ที่วัด ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำคัญอยู่ที่มีผู้เปิดอ่านเพื่อศึกษา และมีความเข้าใจที่ถูกต้องและอีกประการหนึ่งที่ควรพิจารณา คือ อ่านตอนไหน เข้าใจตอนไหน ก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้น จึงค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ศึกษาสะสมความเข้าใจไปตามลำดับ ธรรม เป็นเรื่องยาก ถ้ายากแล้วไม่เริ่มศึกษา ความเข้าใจจะเกิดมีได้อย่างไร ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

ลองฟังธรรมจากในเว็บไซต์นี้บ่อยๆ ถ้าฟังตอนไหน แล้วพบว่ามีการยกข้อความในพระไตรปิฎกขึ้นมา แต่ยังฟังไม่เข้าใจถ่องแท้ หรือ ใคร่ที่จะได้เข้าใจละเอียดขึ้น ตอนนั้นค่อยหาอ่านเพิ่มในพระไตรปิฎก ก็จะเกิดประโยชน์มากครับ การจะเริ่มต้นอ่านพระไตรปิฎกทันทีโดยที่ไม่มีผู้รู้ชี้แนะเลย เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เห็นประโยชน์และเกิดความพากเพียร อดทนที่จะศึกษาได้ แต่ถ้าได้เรียนจากผู้รู้แล้วผู้นั้นทำให้เราเข้าใจธรรม และเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็จะทำให้มีโอกาสศึกษาพระธรรมด้วยตนเองบ่อยขึ้น ส่วนเรื่องของการเก็บ ก็แล้วแต่การตัดสินใจของท่านเองครับ จะเก็บไว้ที่บ้านอย่างเดิมก็ได้ ถ้าคิดว่าพระไตรปิฎกที่มีในบ้านจะเกิดประโยชน์กับท่านในภายหลัง หรือถ้าคิดว่า ท่านมีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้ออีกตู้หนึ่ง และตอนนี้พระไตรปิฎกที่มีในตู้ ก็ยังไม่ค่อยได้อ่าน จะสละให้เป็นประโยชน์แก่วัดก่อนก็ได้ ตอนนี้ถ้ามีเวลา ก็เริ่มฟังพระธรรมจากผู้รู้ก่อน และเมื่อพร้อมอ่านเมื่อไร ตอนนั้นค่อยหาซื้อกลับมาอ่านอีกทีก็ยังไม่สายครับ

กราบขอบพระคุณ ทุกคำตอบ ค่ะดิฉันไม่สบายใจที่พระพูดเช่นนั้น และ เกรงว่า จะทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ดิฉันฟัง MP3 ของมูลนิธิมา 5 ปีแล้วค่ะ ประมาณ 50 แผ่น ฟังแล้วฟังอีก แผ่นละหลายรอบค่ะ และก็ตั้งใจที่จะฟังและศึกษาไปเรื่อยๆ และตั้งใจที่จะอ่านพระไตรปิฎก เพื่อศึกษาอย่างจริงจังให้มากขึ้น เริ่มอ่านบ้างแล้วค่ะ แต่ว่าไม่ได้ 100% หรอกค่ะ เพราะว่าจำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง ส่วนมากจะจำไม่ค่อยได้ แต่ก็จะอ่านไปเรื่อยๆ ค่ะ ดิฉันศึกษา เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพื่อที่ เมื่อวันนั้นมาถึง วันที่เหตุปัจจัยถึงพร้อม ดิฉันก็พ้นจากวัฏฏะได้ค่ะดิฉันคงซื้ออีก 1 ชุด ไว้ที่บ้านดิฉันเองค่ะ ก็จะเก็บรักษาอย่างดีและปฏิบัติโดยเคารพขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

อ่านด้วยตัวเองก็ดีค่ะ เข้าใจเท่าที่เข้าใจได้ ประกอบกับการอ่านกระทู้พระสูตรที่นำมาให้อ่านทุกอาทิตย์ ก็ดีค่ะ เพราะมีการยกอรรถกถามาแสดงประกอบกับข้อความโดยสรุปจากท่านวิทยากรหากมีข้อสงสัย ก็สอบถามในกระดานสนทนาได้ด้วยค่ะ
พระไตรปิฎกไม่ใช่จะอ่านเข้าใจได้ง่ายๆ จึงต้องอาศัยกัลยาณมิตรช่วยเกื้อกูล จะได้ไม่เข้าใจคลาดเคลื่อนค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

ผมกำลังอ่านพระไตรปิฏกอยู่ทุกวันครับ download มาเก็บไว้

ผมอ่านวินัยบ้าง สุตตันตบ้าง อภิธรรมบ้าง เข้าใจได้ระดับหนึ่งครับ เนื่องจากศึกษาหัวข้อธรรมต่างๆ มานานแล้ว ปกติอ่านหนังสือธรรมะของท่านอาจารย์ต่างๆ จนรู้คำศัพท์ที่ปรากฏบ่อยๆ แรกๆ ที่พยายามทำความเข้าใจในหัวข้อธรรมะก็ประสบปัญหาเรื่องคำศัพท์และสำนวน แต่คิดว่าเมื่อพยายามทำไปนานๆ ก็จะดีขึ้นเอง ก็เห็นเป็นจริงในความพยายาม เมื่อไม่นานมานี้จึงเริ่มอ่านพระไตรปิฎก เนื่องจากหาอ่านได้ง่ายแล้วไม่ต้องพกหนังสือเล่มใหญ่ สามารถอ่านได้ตลอดเวลาทีต้องการ

พบว่าการอ่านพระไตรปิฎกมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ เราจะพอทราบเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรม สาเหตุที่แสดงและบรรยากาศต่างๆ รู้แบบนี้น่าจะอ่านมาตั้งนานแล้ว

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาครับ