ภิกษุฉัพพัคคีย์

 
Yongyod
วันที่  16 พ.ย. 2553
หมายเลข  17530
อ่าน  2,943

ภิกษุฉัพพัคคีย์

ได้ยินว่า พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ (พวก ๖ คน) เหล่านั้น เที่ยวทำโรงอาหารให้สกปรกรุงรัง (อากูล) ในวัดบ้าง ในบ้านบ้าง วันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย ได้ถามพวกภิกษุหนุ่มและสามเณรผู้ทำวัตตกิจในบ้านแล้วมาว่า "ผู้มีอายุ โรงอาหารเป็นอย่างไร?"

ภิกษุหนุ่มและสามเณรตอบว่า "อย่าถามเลยท่าน พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ เที่ยวกล่าวอยู่ว่า 'พวกเราเป็นผู้ฉลาด พวกเราเป็นบัณฑิต พวกเราจักประหารภิกษุเหล่านี้ จักโปรยหยากเยื่อลงที่ศรีษะแล้วนำออกไป' ดังนี้แล้ว จับหลังพวกกระผม โปรยหยากเยื่อลง ทำโรงอาหารให้สกปรกรุงรัง (อากูล) "

ภิกษุทั้งหลายนำเรื่องนี้ขึ้นกราบทูลพระศาสดา พระพุทธองค์ตรัสว่า

"ภิกษุทั้งหลายเราไม่เรียกคนที่พูดมาก เบียดเบียนผู้อื่นว่าเป็นบัณฑิต แต่เราเรียกคนที่เกษม ไม่มีเวร ไม่มีภัย ว่าเป็นบัณฑิต" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถาซึ่งยกไว้ ณ เบื้องล่างแล้วว่า

พุทธสุภาษิต

บุคคลชื่อว่าเป็นบัณฑิตเพราะเหตุที่พูดมากก็หามิได้ ผู้ใดเป็นผู้เกษม ไม่มีเวร ไม่มีภัย ผู้นั้น เรียกว่า เป็นบัณฑิต

อธิบายความ

คนพูดมาก กับคนพูดเก่งนั้น ไม่เหมือนกัน คนพูดเก่งคือคนรูุ้จักพูดให้ถูกกาละ เทศะ บุคคลและเรื่องราว ควรพูดก็พูด ควรฟังก็ฟัง พูดเป็นที่ถูกหู ถูกใจของคนอื่นส่วนคนพูดมาก ไม่ประกอบด้วยลักษณะนี้เขาอยากจะพูดก็พูดไปเรื่อยๆ หาเรื่องมาพูดได้เสมอ แต่ไม่สนใจว่า ใครจะอยากฟังหรือไม่อยากฟัง เรื่องที่พูดนั้นเป็นประโยชน์แก่ใครบ้างหรือไม่เป็น ผู้ฟังมีความสุขจากการฟังเขาพูดหรือไม่ ไม่สำคัญ สำคัญตรงที่เขาได้พูด อย่างที่สำนวนไทยว่ากันว่า "พูดน้ำท่วมทุ่ง" ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร

คนจะเป็นบัณฑิตเพราะเหตุที่พูดมากนั้นหามิได้

ผู้ใดเป็นผู้เกษม (เขมี) เป็นผู้ไม่มีเวร (อเวรี) เป็นผู้ไม่มีภัย (อภโย) ผู้นั้นแหละพระพุทธเจ้าตรัสยกย่องว่า "เป็นบัณฑิต"

ผู้เกษม คือท่านผู้ปลอดโปร่ง เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดๆ ว่าเป็นตัวตนหรือของตน และมองโลกโดยความเป็นของว่างเปล่า ยึดถืออะไรไม่ได้ ความปลอดโปร่งเกิดจากความไม่ยึดมั่นถือมั่นนี้

ผู้ไม่มีเวร คือท่านผู้ไม่มีเวร ๕ ไว้กับใครๆ ในที่ไหนๆ เวร ๕ คือ การฆ่า ๑การลักขโมย ๑ การประพฤติผิดในการ ๑ การพูดเท็จ ๑ การดื่มสุราเมรัยจนเมามาย ๑

ผู้ไม่มีภัย เพราะเหตุที่เป็นผู้ไม่ได้ก่อเวรไว้ จึงเป็นผู้ไม่มีภัยในที่ไหนๆ เอาธรรมนั่นแหละเป็นเกราะเครื่องป้องกันตน

บุคคลผู้ปลอดโปร่ง ไม่มีเวร ไม่มีภัย พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นบัณฑิต

พระศาสดาทรงแสดงเรื่องนี้ ขณะประทับอยู่ที่เชตวันวิหาร ทรงปรารภภิกษุฉัพพัคคีย์ ดังได้กล่าวมาแล้ว

ตราบใดที่เรายังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ขอให้ทุกท่านได้มีโอกาสได้เจริญกุศลให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ภัสร์
วันที่ 19 พ.ย. 2553

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pamali
วันที่ 30 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 30 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
zokenyo
วันที่ 13 ธ.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 13 ธ.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ