อนุรุทธสูตร .. มหาปุริสวิตก ๘ ประการ

 
Niranya
วันที่  6 ส.ค. 2549
หมายเลข  1761
อ่าน  17,339

[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 457

๑๐. อนุรุทธสูตร

พระอนุรุทธะ เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้เรียนกรรมฐานจากพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรแล้วเข้าไปสู่ป่าปาจีนวังสมฤคทายวัน ขณะเจริญสมณธรรมอยู่นั้นได้ตรึกถึงมหาปุริสวิตกคือ:-

๑. ธรรมนี้ของผู้มีความปรารถนาน้อย ไม่ใช่ของผู้มีความปรารถนาใหญ่

๒. ธรรมนี้ของผู้สันโดษ ยินดีด้วยของที่มีอยู่ ไม่ใช่ของผู้ไม่สันโดษ

๓. ธรรมนี้ของผู้สงัดแล้ว ไม่ใช่ของผู้ยินดีในหมู่

๔. ธรรมนี้ของผู้ปรารภความเพียร ไม่ใช่ของผู้เกียจคร้าน

๕. ธรรมนี้ของผู้มีสติตั้งมั่น ไม่ใช่ของผู้มีสติหลง

๖. ธรรมนี้ของผู้มีใจตั้งมั่น ไม่ใช่ของผู้มีใจไม่ตั้งมั่น

๗. ธรรมนี้ของผู้มีปัญญา ไม่ใช่ของผู้มีปัญญาทราม

เมื่อพระเถระตรึกอยู่อย่างนี้ พระบรมศาสดาเสด็จไปยังที่อยู่ของพระเถระ ทราบว่าเธอกำลังตรึกอยู่อย่างนั้น ทรงอนุโมทนาว่า ดีล่ะ ดีล่ะ แล้วทรงแนะให้ตรึกในข้อที่ ๘ ว่า ๘ ธรรมนี้ของผู้ยินดีในธรรมที่ไม่เนิ่นช้า ไม่ใช่ของผู้ยินดีในธรรมที่เนิ่นช้า

ฯลฯ

ก็ท่านพระอนุรุทธะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย ลำดับนั้น ท่านพระอนุรุทธะบรรลุอรหัตแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ไว้ในเวลานั้นว่า พระศาสดาผู้เป็นเยี่ยมในโลก ทรงทราบ ความดำริของเราแล้ว ได้เข้ามาหาเราด้วยฤทธิ์ ทางพระกายอันสำเร็จแต่พระหฤทัย พระองค์ได้ ทรงแสดงธรรม อันยิ่งกว่าความดำริของเราเท่าที่ ดำริไว้ พระพุทธเจ้าผู้ยินดีแล้วในธรรมอันไม่เป็น เหตุให้เนิ่นช้า ได้ทรงแสดงซึ่งธรรนอันเป็นเหตุ ให้เนิ่นช้า เราได้รู้ทั่วถึงธรรมของพระองค์แล้ว ยินดีในศาสนาอยู่ เราได้บรรลุวิชชา ๓ แล้วโดย ลำดับ คำสอนของพระพุทธเจ้าเรากระทำแล้ว

จบ อนุรทธะสูตรที่ ๑๐


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
prakaimuk.k
วันที่ 7 ส.ค. 2549

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จันทนีย์
วันที่ 22 ก.ย. 2554
อนุโมทนาค่ะ ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 16 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ