ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ [ตอน ๑]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็น ณ กาลครั้งหนึ่ง อันยอดเยี่ยมของข้าพเจ้า ที่ได้มีโอกาสติดตามท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ไปร่วมรับฟังการสนทนาธรรม ที่ถูกจัดขึ้น เพื่ออบรมพระภิกษุจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่สมัครเข้ารับการอบรมความรู้ความเข้าใจ ในพระศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเข้าใจในคำสอนที่ถูกต้อง ที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงตรัสรู้และทรงมีพระมหากรุณาแสดงไว้ เพื่อเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงในการเผยแพร่พระศาสนา ณ ห้องประชุมอาคาร สุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม ระหว่างเวลา ๑๓.๓๐ น. - ๑๕.๐๐ น.
ข้าพเจ้ามีความรู้สึกซาบซึ้งและปีติยิ่ง เมื่อได้ทราบว่าท่านผู้ที่กราบเรียนเชิญท่านอาจารย์ ไปสนทนาธรรมในกาลนี้ คือ ท่านรองศาสตราจารย์ สงบ เชื้อทอง สามีของพี่แดง (ท่าน พล.อ.ต.หญิง กาญจนา เชื้อทอง) ผู้ศึกษาพระธรรมที่ท่านอาจารย์บรรยายมานานหลายสิบปีแล้ว นั่นเอง ข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านทั้งสอง มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
อนึ่ง ในช่วงก่อนการสนทนา มูลนิธิฯ ได้นำหนังสือของมูลนิธิฯ จำนวนสองเล่ม คือ เข้าใจธรรม ที่ได้เรียบเรียงขึ้นจากการสนทนา ของ ท่านอาจารย์กับไกด์ชาวอียิปต์ โดยคุณนีน่า วัน กอร์คอม เป็นหนังสือที่มีทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษในเล่มเดียวกัน ที่ทางมูลนิธิฯ จัดพิมพ์ถวายเป็นพระกุศล ในคราวฉลองพระชนมายุ ๙๖ พรรษา แด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช และ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกหนึ่งเล่ม ไปแจกแด่พระภิกษุ ที่เข้าร่วมฟัง จำนวนเกือบ ๘๐๐ รูป อีกด้วยครับ
ก่อนการสนทนาธรรมของท่านอาจารย์ในครั้งนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงกุศลธรรมที่ยิ่งใหญ่ จักได้เกิดมีขึ้น ไม่แม้แต่กับตัวของข้าพเจ้าเอง แต่กับทุกๆ ท่าน ที่มีส่วนร่วมและเห็นถึงประโยชน์ และ ความสำคัญของ ณ กาล นี้ ของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ที่พระคุณเจ้าทั้งหลาย ผู้มีความสำคัญยิ่งในการเผยแพร่พระธรรม จักได้รับประโยชน์ จากการสนทนา เพื่อความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ในหลักธรรมคำสอน ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และ ทรงแสดงไว้ ดังข้อความตอนหนึ่ง ที่ท่าน รองศาสตราจารย์ สงบ เชื้อทอง ได้กล่าวไว้อย่างไพเราะ ลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่งในวันนั้น ดังนี้ ...
... พระคุณเจ้า ต้องเป็นหัวใจสำคัญ ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เป็นผู้นำทั้งด้าน จิตวิญญาณ ทั้งด้านเผยแพร่พระธรรม ถ้าพระคุณเจ้าไม่ทำหน้าที่ในส่วนนี้แล้ว การที่จะสืบต่อพระศาสนาได้ ก็ขึ้นอยู่ที่ผู้ที่รักษาพระศาสนา ถ้าผู้ที่รักษาพระศาสนา ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้ค้นคว้า ไม่ได้ "เข้าใจ" ประพฤติ ปฏิบัติตาม และ ไม่เผยแพร่ ก็เป็นอันว่า พระพุทศาสนาของเราสิ้นสุด อวสาน ถ้าพระคุณเจ้าทั้งหลาย ได้ทำการศึกษาพระธรรมวินัย จน "เข้าใจ" ดีแล้ว และทำการเผยแพร่แก่พุทธศาสนิกชน ก็ถือเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ...
การสนทนาในวันนี้เกี่ยวกับเรื่อง "การศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวัน" ก็ขอกราบเรียนเชิญ ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ครับ
(หมายเหตุ เนื่องจากการสนทนาธรรม ครั้งนี้ มีความสำคัญ ดังได้กล่าวแล้ว ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตนำเสนอเป็นตอนๆ เพื่อความครบถ้วน อันจะยังประโยชน์ แก่ท่านผู้สนใจตามควรแก่กาลสมัยต่อไป นะครับ)
ท่านอาจารย์ ขอกราบนมัสการพระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง เรื่องการศึกษา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์มาก แต่สิ่งที่มีประโยชน์ที่สุด ก็คือ การศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงแล้ว พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นชีวิตประจำวัน เป็นการให้เห็นพระปัญญาคุณว่า ทรงตรัสรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ตามความเป็นจริง โดยละเอียดยิ่ง โดยประการทั้งปวง และ ทรงแสดงธรรมะที่ทรงตรัสรู้ แก่บุคคลต่าง อัธยาศัย มากมาย สุดที่จะประมาณได้ แต่ว่า พระธรรมที่ทรงแสดงแล้วก็มีทุกกาลสมัย พร้อมที่จะให้แต่ละบุคคลแต่ละอัธยาศัย ได้พิจารณา ไตร่ตรอง จนกระทั่งเป็นความเห็นถูก เป็นปัญญาของตนเอง เพราะว่าโลกนี้เป็นที่พักเพียงชั่วคราว ไม่มีใครสามารถที่จะอยู่ในโลกนี้ได้ตลอดไป ...
... เพราะฉะนั้น ระหว่างที่เกิดในชาติหนึ่ง ในโลกหนึ่ง ... สิ่งที่ประเสริฐที่สุด คือ สามารถที่จะทำความเข้าใจ แล้วก็ได้รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงในโลก เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีการฟังพระธรรม ก็จะกล่าวได้ว่า ทุกคนเกิดมา แล้วก็จากโลกนี้ไป โดยที่ไม่รู้จักความจริงของโลกนี้เลย ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่แสวงหาสัจจะ คือ ความจริง จะได้ความจริงทั้งหมด จากการศึกษาพระธรรม ...
" ... เมื่อมีการศึกษาพระธรรมเข้าใจแล้ว ก็สามารถที่จะเผยแพร่ พระธรรมที่ได้ศึกษาเข้าใจแล้ว ให้บุคคลอื่นได้เข้าใจ ได้มีความเห็นที่ถูกต้อง ตรงตามพระธรรมที่ทรงแสดงด้วย เพราะเหตุว่า ไม่มีบุคคลใด ในสากลจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นกี่จักรวาลก็ตาม ที่จะถึงพร้อมด้วยพระปัญญาคุณ อย่างพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ทางเดียวที่จะได้ "รู้จัก" พระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ การศึกษาพระธรรม ... "
... เมื่อศึกษาพระธรรม ก็จะเห็นพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ เพราะว่า กว่าจะได้ตรัสรู้ เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมี นาน ... แสนนาน ... สุดที่จะประมาณได้ เมื่อทรงตรัสรู้แล้ว ก็ได้ทรงแสดงพระธรรมที่ทรงพระมหากรุณา บำเพ็ญพระบารมี ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่รู้เฉพาะตน แต่ก็ยังทำให้สัตว์โลก ได้สามารถมีปัญญา เข้าใจความจริงที่พระองค์ได้ตรัสรู้ เพราะฉะนั้น "ทุกคำ" ที่ทรงแสดง ที่ตรัสไว้ ในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ พระนครสาวัตถี พระนครโกสัมพี หรือว่า พระนครราชคฤห์ "ทุกคำ" มีค่า สุดที่จะประมาณได้ เพราะว่ามาจากการทรงบำเพ็ญพระบารมี ถึงความเป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
... เพราะฉะนั้น การศึกษาทุกอย่าง ก็เพื่อมีความเห็นถูก มีความเข้าใจถูกในสิ่งที่ศึกษา ในสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง พิจารณาไตร่ตรอง จนกระทั่ง เป็นความเข้าใจของตนเอง แต่ว่าพระธรรมที่ทรงแสดง ก็เป็นสิ่งที่ ลึกซึ้ง เพราะเหตุว่า ผู้แสดงไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ
เพราะฉะนั้น การศึกษาพระธรรม ต้องไม่ประมาท ต้องเป็นผู้ที่รอบคอบ ไตร่ตรองให้เข้าใจความลึกซึ้ง ในพระธรรมที่ทรงแสดง เพื่อที่จะได้ดำรงพระศาสนาต่อไป เจ้าค่ะ ...
มิใช่แต่บุรุษจะเป็นบัณฑิตได้ในที่ทุกสถาน แม้สตรีมีปัญญาเห็นประจักษ์ ก็เป็นบัณฑิตได้ในที่นั้นๆ .
มิใช่บุรุษจะเป็นบัณฑิตได้ในที่ทุกสถาน แม้สตรีที่คิดความได้รวดเร็ว ก็เป็นบัณฑิตได้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้าที่ 178
...
กราบท่านอาจารย์
และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอเชิญคลิกอ่านตอนอื่นๆ ทั้งหมด ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง ...
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๑๑ ธ.ค. ๕๓ ตอน ๒
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๑๑ ธ.ค. ๕๓ ตอน ๓
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๑๑ ธ.ค. ๕๓ ตอน ๔ [ตอนจบ]
ขอกราบอนุโมทนาท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และขออนุโมทนาคุณวันชัย ภู่งาม และผู้เกี่ยวข้องทุกๆ ท่านค่ะ
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตท่านอาจารย์ และทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
ขอกราบอนุโมทนาท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ ขออนุโมทนา คุณวันชัย และทุกๆ ท่านที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ
แต่ว่าพระธรรมที่ทรงแสดง ก็เป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง เพราะเหตุว่า ผู้แสดง ไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ เพราะฉะนั้น การศึกษาพระธรรม ต้องไม่ประมาท ต้องเป็นผู้ที่รอบคอบ ไตร่ตรองให้เข้าใจความลึกซึ้ง ในพระธรรมที่ทรงแสดง เพื่อที่จะได้ดำรงพระศาสนาต่อไป เจ้าค่ะ...
กราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์...ท่านผู้ซึ่งเข้าใจความลึกซึ้งของพระธรรมอย่างแท้จริง ท่านผู้ซึ่งมีเมตตาอย่างมากที่จะให้ทุกๆ ท่านได้เข้าใจถึงความลึกซึ้งของพระธรรม พระธรรมนั้นคิดเอาเองไม่ได้ เพราะผู้แสดง ไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอกราบอนุโมทนาท่านรองศาสตราจารย์ สงบ เชื้อทอง และ ท่าน พล.อ.ต.หญิง กาญจนา เชื้อทอง ที่ทำให้งานสนทนาธรรมในครังนี้... ณ. กาลครั้งหนึ่ง... สำเร็จประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะให้ท่านพระคุณเจ้าทั้งหลาย และทุกๆ ท่านที่ไปร่วมสนทนาธรรม ได้ฟังให้เข้าใจความจริงของธรรมะ ธรรมะเป็นพระอภิธรรม ให้มีความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ
ขออนุโมทนาอ.คำปั่น ผู้ที่เคยบวชเรียนมาก่อน ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ขณะที่ยังเป็นสามเณร (นาคหลวง) ได้บรรยายไว้ประทับใจมาก ซึ่งจะได้เป็นประโยชน์อย่างมากแก่พระคุณเจ้าทั้งหลาย
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนา คุณวันชัย อย่างหาที่สุดไม่ได้ที่เห็นถึงประโยชน์ และ ความสำคัญของ ณ กาล นี้ ซึ่งจะได้นำเสนอเป็นตอนๆ เพื่อความครบถ้วน อันจะยังประโยชน์ แก่ท่านผู้สนใจ ตามควรแก่กาลสมัยต่อไป...
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
ขออนุโมนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนค่ะ และขอบคุณคุณวันชัยที่นำเรื่องราวมาเผยแพร่ให้พวกเราร่วมกันอนุโมทนา
ขออนุโมทนากับท่าน อ.สุจินต์ ขออนุโมทนากับกับท่าน อ.คำปั่น ขออนุโมทนากับท่านที่นำเรื่องราวมาเผยแพร่ครับ และขออนุโมทนากับทุกท่านครับ
กราบอนุโมทนาท่านอจ.สุจินต์ อจ.คำปั่น คุณวันชัย และผู้เกี่ยวข้องทุกๆ ท่านค่ะ...สาธุ.....
ขออนุโมทนาในท่านผู่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทุกทุกท่าน ที่ได้นำสิ่งดีดีที่มีประโยชน์โดยเฉพาะพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่
ศิษย์คนหนึ่ง
ม.มมร. รุ่น ๔๒ ปี ๒๕๓๘
ได้ยินข่าวคราวท่านอาจารย์ก็ยินดีและอนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่ง
BOONKMH
มุกดาหาร