การบวชชีพราหมณ์

 
veerawan2009
วันที่  18 ธ.ค. 2553
หมายเลข  17631
อ่าน  24,066

ขอเรียนถามว่า มีผู้ทักว่าดิฉันควรไปบวชชีพราหมณ์ แก้กรรมเพื่อให้งานที่กำลังติดต่อประสานงานอยู๋ไม่ติดขัด ให้สำเร็จราบรื่น ใจหนึ่งดิฉันก็คล้อยตามด้วยกังวลว่าถ้าไม่ทำแล้วงานจะยังติดขัดอยู่ แต่อีกใจดิฉันคิดว่ากรรมเกิดแต่การกระทำของตนเอง ยินดีน้อมรับและชดใช้ และเปลี่ยนเป็นการสมาทานอุโบสถศีลอยู่ที่บ้าน เนื่องจากต้องดูแลบิดา

๑. อยากทราบว่าแนวการปฎิบัติโดยบวชอยู่ที่บ้าน จะเทียบเสมอเหมือน การต้องไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดหรือไม่

๒. ดิฉันใส่บาตร ทำทาน เจริญสมาธิ และอุทิศส่วนบุญโดยตั้งจิตอธิษฐานอุทิศ โดยไม่ได้กรวดน้ำตามแบบพราหมณ์ ผู้ที่ดิฉันอุทิศให้จะได้รับหรือไม่

กราบขอบพระคุณ

ขอท่านเจริญด้วยธรรมยิ่งๆ ขึ้น


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chaiyut
วันที่ 21 ธ.ค. 2553

1. ควรทราบนะครับว่า การบวชเป็นชี ไม่มีในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแต่เพียงความนิยมที่เกิดขึ้นในยุคสมัยหลังๆ แม่ชี จึงไม่ใช่นักบวชในพระพุทธศาสนา แต่เป็นอุบาสิกาที่มีศรัทธาจะรักษาศีล ๘ ซึ่งแม้ไม่บวชเป็นชี แต่ถ้ามีความเข้าใจธรรม รู้อัธยาศัยของตน รู้จุดประสงค์ที่ถูกต้องในการรักษาศีล ก็ย่อมสมาทานรักษาศีลได้ตามโอกาสอันสมควร สำหรับอุโบสถศีลมีรายละเอียดที่ควรศึกษาต่อ แต่ควรทราบก่อนว่าการรักษาอุโบสถศีลที่ถูกต้องชัดเจนจริงๆ นั้น เป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เข้าใจและจะได้น้อมประพฤติปฏิบัติตาม ไม่พึงรักษาศีลเพราะความงมงาย เพราะผู้อื่นทัก หรือเพราะการเชื่อในมงคลตื่นข่าว พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของๆ ตน ทำกรรมดีก็ตาม กรรมชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมที่ตนนั้นได้กระทำไว้ การได้ลาภเป็นผลของกุศล การเสื่อมลาภ เป็นผลของอกุศล นี้เป็นธรรมดาของโลกธรรม ตราบใดที่ยังมีการเกิด ไม่มีใครที่จะหนีพ้นจากความจริงเหล่านี้ไปได้ครับ

ขอเชิญคลิกอ่าน >>

จำเป็นไหมที่ควรจะรักษาอุโบสถ เพื่อขัดเกลากิเลส

อุโบสถศีล

2. ผู้ที่จะรับรู้ว่า มีผู้กระทำกุศลและได้อุทิศส่วนกุศลไปให้ตน คือ ผู้ที่อยู่ในภพภูมิที่จะล่วงรู้ได้ เช่น เปรต เทวดา เป็นต้น ถ้าผู้นั้นจากโลกนี้ไป เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือ เป็นมนุษย์ ก็ย่อมไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ อนึ่ง บุญไม่ใช่การแบ่งสิ่งทีเรามีให้เขารับไว้แต่บุญ คือ จิตที่เป็นกุศลที่ทำให้เกิดการกระทำกุศลกรรมต่างๆ ซึ่งเมื่อเขารู้ว่า เราได้กระทำกุศลกรรมนั้นๆ แล้วได้อุทิศส่วนกุศลมาให้ บุญหรือกุศลจิตของเขาจึงเกิดขึ้นเขาจึงอนุโมทนาในบุญของผู้อุทิศ การอนุโมทนา จึงเป็นบุญของเขาอีกที ไม่ใช่ว่าเราไม่กรวดน้ำ เขาก็จะไม่ได้รับ เพราะบุญไม่ได้อยู่ที่น้ำ แต่อยู่ที่ว่า เราทำกุศลแล้วอุทิศแล้ว เขาล่วงรู้แล้ว เขาจะอนุโมทนาในบุญนั้นหรือไม่ ต่างหาก และถ้าสิ่งที่เราทำ ไม่เป็นบุญ ไม่ใช่บุญ ถึงจะกรวดน้ำไปแค่ไหน หากเขารู้ เขาก็ไม่อนุโมทนาครับ

ขอเชิญคลิกอ่าน >>

การกรวดน้ำ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
veerawan2009
วันที่ 24 ธ.ค. 2553

ขอขอบพระคุณอย่างสูงที่ให้ความกระจ่าง เพื่อก้าวเดินไปในทางที่ถูกต้อง ปัจจุบันจะอ่านพระไตรปิฎก และคำสอนที่เป็นพุทธวัจนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อจะได้ไม่เดินผิดทางอีกต่อไป ขอบพระคุณอย่างสูง และขออนุโมทนาในกุศลที่ได้ทำมาทุกภพชาติ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 24 ธ.ค. 2553

พราหมณ์ หมายถึง พวกลัทธิพราหมณ์ หรือหมายถึงพระอรหันต์ คือผู้ที่ลอยบาปค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 16 ม.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ