ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความหวังดีจากคุณย่าสงวน
ดาวน์โหลดเพื่ออ่าน "เรื่อง ... เกิด แก่ เจ็บ ตาย"
ประจำวันอาทิตย์ ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๑
"ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความหวังดีจากคุณย่าสงวน"
ปล. อ่านวันนี้หน่อยนะคะ เพื่อจะได้รู้ประโยชน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสกับท่านพระอานนท์ว่า ควรระลึกถึงความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกลมหายเข้าใจเข้าออก
คนส่วนมาก เมื่อคิดถึงความตาย แล้วเกิดความสลดใจ ถ้าเพลินตายตอนนั้นก็ไปทุคติแน่ ท่านจึงสอนให้เราเจริญปัญญา เพื่อรู้ว่าทุกสิ่งเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ก็ระลึกรู้ลักษณะของธรรมที่กำลังปรากฏ แทนที่จะไประลึกถึงสิ่งอื่นโดยความเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด และการหาเสบียงไว้สำหรับชาติหน้า คือ สร้างกุศล เพราะฉะนั้น คุณย่าเมื่อคิดว่า ๙๒ แล้ว ไม่รู้ว่าจะจากเพื่อนนักเรียนไปในชั่วโมงหนึ่งชั่วโมงใดข้างหน้า จึงได้บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสหายธรรม โดยถอดเทปให้เพื่อนได้ทบทวน เพื่อความเห็นถูก เข้าใจถูกด้วยคุณย่าเตรียมจนกระทั่งสั่งน้องแดงไว้ คือ คุณอิทธิ ท่านถ่ายรูปและขยายมาให้ด้วย คุณย่ากำลังพนมมือ ตอนถวายพระสถูปที่บรรจุพระบรมธาตุเอาไว้ตั้งหน้าหีบศพ เพื่อไหว้สหายธรรมเป็นครั้งสุดท้ายด้วย แล้วบอกในใจด้วยนะคะว่า พบกันชาติหน้านะคะ
คุณย่า
เจอคุณย่าครั้งใด ร่าเริงใจด้วยธรรม จริงๆ ครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาในการเจริญกุศลทุกประการ โดยเฉพาะการเผยแพร่พระธรรมของคุณย่าซึ่งได้เกื้อกูลแก่นักเรียนคนอื่นๆ เสมอมา.
ด้วยความเคารพอย่างสูงปริศนา.
กราบขอบพระคุณคุณป้าสงวน สุจริตกุล ที่เมตตาตั้งแต่พบท่านครั้งแรก ในการเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ที่อินเดีย เมื่อปี ๓๐ หลังจากนั้นจนบัดนี้ก็พบว่า ได้พูดกับคุณป้าครั้งใด เป็นความสุขเพลิดเพลินและได้ยินเสียงหัวเราะของผู้ร่วมสนทนาทุกครั้ง
ยิ่งกว่านั้น ยังได้ธรรมปีติ จากการได้อ่านลายมือสวยงามของคุณป้าที่ถอดเทป แนวทางเจริญวิปัสสนา และอื่นๆ อีกมาก มาเผยแพร่ให้ผู้สนใจได้อ่านอย่างทั่วถึง
กุศลที่คุณป้าได้ทำนั้น ทำให้เกิดกุศลจิตต่อๆ ไปอีกมากมาย คุณป้าเคยพูดว่า ตอนนี้อยู่เขตดุสิต ตายไปก็ขออยู่ชั้นดุสิตอีก ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากไปอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ
กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
ขอกราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น..กราบท่านอจ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กราบคุณย่าสงวน สุจริตกุล เมื่อดิฉันได้กราบแนะนำตัวว่าเป็นผู้มา (ศึกษา) ใหม่ ท่านได้กรุณาพูดคุย ทักทาย ด้วยความมีเมตตา ประทับใจมาก มากค่ะ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่าน อจ. คุณย่า และทุกๆ ท่านค่ะ
สาธุ
เชื่อว่าลึกๆ แล้วคงไม่มีใครอยากตายง่ายๆ หรอกค่ะ เพราะความติดในภพ ในชาติ ในขันธ์นั้น เหนียวแน่นกว่าความติดในกาม (รูป เสียง ฯลฯ) มากมายนัก ถ้าให้ตาย "เดี๋ยวนี้" เลย แล้วไปเกิดบนสวรรค์ แม้กระนั้นหลายท่านก็ยังไม่อยากตาย เพราะความ "อาลัย" ในภพจะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ขอมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาทค่ะ