คำอันเป็นสุภาษิต [ปัจจนิกสูตร]

 
JANYAPINPARD
วันที่  10 ม.ค. 2554
หมายเลข  17715
อ่าน  1,470

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 286

๖. ปัจจนิกสูตร

ว่าด้วยคำอันเป็นสุภาษิต

[๗๐๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี สมัยนั้น พราหมณ์มีนามว่า ปัจจนิกสาตะ อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถี ปัจจนิกสาตพราหมณ์มีความดำริว่า อย่ากระนั้นเลย เราพึงเข้าไปเฝ้าพระสมณโคดมยังที่ระทับเถิด พระสมณโคดม จักตรัสคำใดๆ เราจักเป็นข้าศึกคำนั้นๆ ดังนี้

[๗๐๒] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจงกรมอยู่ในที่แจ้ง ลำดับนั้น ปัจจนิกสาตพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับแล้ว เดินตามพระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งกำลังเสด็จจงกรมอยู่ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ขอท่านพระสมณะจงตรัสธรรม.

[๗๐๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า คำอันเป็นสุภาษิต อันบุคคลผู้ยินดี จะเป็นข้าศึก มีจิตเศร้าหมอง มากไปด้วย ความแข่งดี จะรู้แจ้งด้วยดีไม่ได้ ส่วนว่า บุคคลใด กำจัดความแข่งดี และความไม่ เลื่อมใสแห่งใจ ถอนความอาฆาตได้แล้ว ผู้นั้นแลพึงรู้คำอันเป็นสุภาษิต.

[๗๐๔] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเช่นนี้แล้ว ปัจจนิกสาตพราหมณ์ กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรม โดยอเนกปริยายดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าคนมีจักษุจะมองเห็นรูปได้ ข้าแต่ท่านพระโคดม ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า กับพระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

อรรถกถาปัจจนิกสูตร

ในปัจจนิกสูตรที่ ๖ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :- เมื่อเขากล่าวว่า สิ่งทั้งปวงขาว พราหมณ์นั้นก็ทำการขัดแย้ง โดยนัย เป็นต้นว่าสิ่งทั้งปวงดำ ย่อมมีความสำราญ คือมีความสุข เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ปจฺจนิกสาโต บทว่า โย จ วิเนยฺย สารมฺภ ความว่า ผู้ใดกำจัด ความแข่งดีมีลักษณะทำให้เกิดหน้ากันแล้วฟัง.

จบ อรรถกถาปัจจนิกสูตรที่ ๖


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ