เวียนว่ายตายเกิดมีจริงหรือไม่?

 
tanon
วันที่  31 ม.ค. 2554
หมายเลข  17803
อ่าน  2,977

ผมไปพบข้อคิดเห็นบางประการจึงอยากเอามาแชร์ แต่มาดูความเห็นของพวกเราๆ กันก่อนดีกว่านะครับว่าเวียนว่ายตายเกิดมีจริงหรือไม่ ขอเชิญผู้รู้แสดงความเห็นได้เลยครับ

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 31 ม.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเวียนว่ายตายเกิด เป็นเรื่องของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลส บุคคลผู้ที่ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ตัณหา (โลภะ) และ อวิชชา (ความไม่รู้) จึงต้องมีการเกิดการตายอยู่ร่ำไป สังสารวัฏฏ์ดำเนินไปอย่างไม่จบสิ้น และกว่าจะมาเกิดเป็นมนุษย์ในชาติปัจจุบันนี้นั้น ในชาติที่ผ่านๆ มาก็เคยเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เคยเป็นมาแล้วทุกอย่าง ทั้งคนมั่งมี ยากจน คนตกทุกข์ได้ยาก เป็นพระราชา พระมหากษัตริย์ เป็นต้น เพราะสังสารวัฏฏ์ยาวนานหาที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ และเมื่อยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ขณะสุดท้ายของชีวิตในชาตินี้ที่จุติจิตเกิดขึ้นเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้แล้วดับไปปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อทันที เกิดทันทีในภพใหม่ชาติใหม่ เป็นบุคคลใหม่ในชาติใหม่ มีจิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์) เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) รูป (สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร) เกิดขึ้นเป็นไป สืบเนื่องต่อไปเป็นสังสารวัฏฏ์ที่ยืดยาวต่อไปอีก จึงควรที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพราะเหตุว่าการอบรมเจริญปัญญาเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส ดับกิเลส ดับทุกข์ ไม่มีการเกิดการตายอีกเลย ดังนั้น ถ้าเป็นผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาด้วยความละเอียด รอบคอบ ก็จะทำให้มีความเข้าใจเจริญขึ้นไปตามลำดับ และประการที่สำคัญ พระธรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องที่คิดเอาเอง แต่เป็นเรื่องที่ควรศึกษาให้เข้าใจตามความเป็นจริง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 31 ม.ค. 2554

"เรื่องของคนที่ไม่เห็นก็มี ๒ พวก คือพวกหนึ่งไม่เห็นและไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่อีกพวกหนึ่งเมื่อไม่เห็นแล้วจะไม่เชื่อ เพราะตนเองไม่เห็นเท่านั้นหรือ หรือว่ามีบุคคลอื่นซึ่งสามารถจะเห็นได้ เหมือนคนตาบอดไม่เห็น แต่คนตาดีเห็น ที่คนตาบอดบอกว่าทุกอย่างมืดไม่มีอะไรเลยนั้น ถูกต้องมั้ย ในเมื่อคนตาดีเห็นสีสันวรรณต่างๆ ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น"

ข้อความบางตอนจากหนังสือ แนวทางเจริญวิปัสสนา ๑ - ๑๐

โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
sms
วันที่ 31 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 31 ม.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
มกร
วันที่ 1 ก.พ. 2554

เพราะ"อวิชชา"จึงทำให้มาเวียน ตาย เกิด ในวัฎฎสงสารไม่มีที่สิ้นสุด

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 15 ก.พ. 2554

เวียนว่ายตายเกิดมีจริงแน่นอน ตราบใดที่ยังมีกิเลสก็ต้องเวียนว่ายตายเกิด ถ้าเป็นผลของมหากุศล ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ เป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าตายแล้วไม่เกิดอีกเลย ก็ต้องอบรมปัญญาจนกว่าจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ม.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ