แต่ก่อนที่จะเห็นว่าโลภะเป็นสมุทัย ต้องเห็นโลภะก่อน (๑)

 
pirmsombat
วันที่  6 ก.พ. 2554
หมายเลข  17840
อ่าน  1,493

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์........แม้แต่การฟังก็จะเห็นได้ว่า บางคนฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ บางคน

ฟังแล้วก็เข้าใจช้าๆ แต่บางคนเข้าใจเร็ว แล้วเข้าใจมาก เข้าใจกว้าง เข้าใจได้ทันที

มาจากไหน ก็ต้องอาศัยจากเคยอบรมมาแล้ว คุณชินวุธก็เป็นผู้มีความรู้มากมาย

หลายอย่างทางโลก เป็นบัณฑิต เป็นดร.ชินวุธ แต่ว่าต้องสะสมมาใช่ไหมคะ

คนอื่นจะเป็นอย่างคุณชินวุธคงไม่ได้ในทางนั้นๆ ถ้าไม่ได้สะสมมาอย่างนั้นๆ

ดิฉันเป็นไม่ได้ ใช่ไหมคะ

ดร.ชินวุธ ผมไม่ตอบ

ท่านอาจารย์ ก็ต้องสะสมทั้งนั้นค่ะ ไม่ว่าใครจะเก่งทางไหน ก็ต้องสะสมมาทาง

นั้น ใครถ่ายรูปเก่ง ใครเล่นดนตรีเก่ง ใครวาดรูปเก่ง ใครร้องเพลงเก่ง

ก็ต้องเป็นการสะสมทั้งหมด ใครมีปัญญามาก จะให้เกิดเอง ไม่เหมือนอย่างอื่น

เป็นไปได้ไหมคะ ในเมื่ออย่างอื่นก็ต้องอบรมทั้งนั้น สะสมทั้งนั้น

แล้วจะให้รู้เพียงนามธรรมและรูปธรรม 2 คำเท่านั้น เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะที่จะ

ละกิเลส

ดร.ชินวุธ เรื่องการสะสมนี้ ผมเชื่อว่า ทุกท่านที่นั่งอยู่ในห้องนี้ คงไม่รู้หรอกว่า

สะสมมากี่แสนกัปป์แล้ว แต่ต้องมีแน่ๆ ไม่อย่างนั้น ไม่มานั่งอยู่ที่นี่หรอก

ที่ผมออกมานี่ผมจะมาขอกำลังใจจากท่านอาจารย์ ว่ามันจำไม่ได้ จะไหวไหมครับ

อาจารย์บอกว่าไม่เป็นไร ค่อยเป็นค่อยไป

ท่านอาจารย์ ตราบใดที่ฟังพระธรรม จะไม่รู้เลยว่า ความเข้าใจนั้นมีเพี่มขึ้น

เรื่อยๆ แล้วก็เป็นปัจจัยให้เกิดโยนิโสมนสิการ แทนที่เราจะคิดปรุงแต่งเรื่องอื่น

ก็จะมีปัจจัยที่ทำให้คิดพิจารณาสภาพธรรม เพราะวันหนึ่งๆ ทุกคนอดคิดไม่ได้ แต่ว่า

ก่อนฟังธรรมนี้คิดเรื่องอื่น คิดเรื่องกีฬา คิดเรื่องสารพัด แต่พอฟังธรรมแล้ว

วันนี้อาจจะนึกถึงธรรมที่ได้ฟัง แล้วก็คิดพิจารณาจนกระทั่งเป็นความเข้าใจขึ้น เป็น

ความแตกฉานยี่งขึ้น ก็เป็นอุปกรณ์เป็นบารมีที่จะทำให้เห็นจริงๆ ว่า เป็นสภาพธรรม

แต่ละอย่างซึ่งเป็นการละคลาย สักกายทิฏฐิคุณสุพรรณี ขอถามนิดหนึ่งนะคะ คนที่ตั้งแต่เช้าจนเย็นยุ่งมาก จะมีกลอุบาย

อะไรที่จะทำให้เรามีสติปัญญาดีขึ้นๆ มีวิธีอย่างไรได้บ้าง เพราะเวลาทุกเวลานาที

เอาไปทำการงานหมด เราจะทำอย่างไรดีท่านอาจารย์ อย่าห่วงค่ะ เพราะว่าห่วงก็คือห่วง แล้วก็ยี่งห่วงต่อไปอีกนะคะ

จะไม่หมดห่วงเพราะความห่วง

คุณสุพรรณี คือถ้าหากเราไม่โยนิโส พอนึกขึ้นมาที มันก็เป็นการงานไปหมด

ท่านอาจารย์ เราอาจจะคิดว่าเราโยนิโส แต่ความจริงสภาพธรรมแต่ละขณะที่จะ

เกิด เป็นไปตามเหตุปัจจัย ขณะที่ยุ่งๆ นี้ อกุศลทั้งหลาย ก็มีเหตุปัจจัยที่จะเกิดขึ้น ถ้า

เป็นผู้ที่มีสติอบรมเจริญมาแล้ว ทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งสติสามารถจะเกิดระลึก

ได้บ้าง อย่างแข็งอย่างนี้ระลึกได้ เป็นสติสัมปชัญญะ

คุณสุพรรณี ไม่เคยเลยทั้งวัน

ท่านอาจารย์ ไม่เคยคือเรื่องยังไม่เคย แต่ต่อไปก็จะเกิดได้ อย่าห่วง ยี่งห่วงก็

ยี่งเป็นทุกข์นะคะ ไม่เคยคิดว่า ห่วงจะทำให้หายห่วง แต่ต้องเป็นปัญญาที่รู้ว่าสภาพ

ธรรมทั้งหลาย จะต้องเกิดขึ้นตามเหตุ ตามปัจจัย เมื่อมีการฟัง มีสัทธา มีฉันทะ

ไม่ทอดที้ง ไม่ละเลย ปัญญาก็จะค่อยๆ สะสมไป แล้วก็สภาพธรรมทั้งหลายก็ทราบ

แล้วว่า มีรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ มีวิญญาณขันธ์

สติก็เป็นสังขารขันธ์ ปัญญาก็เป็นสังขารขันธ์ โลภะ โทสะ เป็นสังขารขันธ์ ก็ล้วน

แต่เป็นสังขารขันธ์ แล้วเราจะไปทำอะไรคะ นอกจากรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง

ไม่ใช่ทำค่ะ แต่รู้ เข้าใจ ลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะคะ

คุณกฤษณา คราวที่แล้วอาจารย์ได้บรรยายถึง สักกายทิฏฐิ จะละได้ด้วยการถึง

พร้อม ด้วยการเห็นทุกข์ ทุกข์ในที่นี้ อาจารย์หมายถึง ทุกขอริยสัจ ใช่ไหม

ท่านอาจารย์ ค่ะ

คุณกฤษณา แล้ว ทุกข์อริยสัจ นี้หมายถึงสภาพธรรมที่เกิดดับ ยกเว้น

พระนิพพาน ใช่ไหมคะ

ท่านอาจารย์ ค่ะ

คุณกฤษณา แล้วทีนี้อีกอย่างหนึ่ง สมุทยอริยสัจนั้น สภาพธรรม ก็คือ

"โลภเจตสิก"

อย่างที่อาจารย์ยกตัวอย่างว่า จะอ่านหนังสือ ยื่นมือไปหยิบหนังสือจะอ่านก็เป็น

สมุทัยแล้ว ก็สงสัยว่า

การยื่นมือไปหยิบหนังสือ

สมุทัย อันนั้นน่ะเป็นเหตุของการเกิดดับอย่างไร

เพราะทราบมาว่า

สมุทัยเป็นเหตุแห่งทุกข์

(ยังมีต่อ)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 7 ก.พ. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pirmsombat
วันที่ 7 ก.พ. 2554

ขอบคุณ คุณจักรกฤษณ์ มากและขออนุโมทนาครับ

คุณไปอินเดียไหมครับ ถ้าไปคงจะได้คุยธรรมกันบ้างครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
สมศรี
วันที่ 7 ก.พ. 2554

ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
intira2501
วันที่ 7 ก.พ. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 7 ก.พ. 2554

เรียนคุณหมอความเห็นที่ ๒ ครับ ผมมีความหวังที่จะไปเหมือนกันครับ

แต่ตอนนี้ยังมีภาระอยู่จึงได้แต่เพียงแต่คิดไปก่อนครับ

หากมีโอกาสพบคุณหมอคงจะได้รับความรู้จากคุณหมออีกมากนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pat_jesty
วันที่ 7 ก.พ. 2554

แค่จะอ่านก็มีโลภะ คือความต้องการ ติดข้องอยากจะอ่าน ใช่รึเปล่าค่ะ

ลองตอบระหว่างรอภาคต่อ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chaiyut
วันที่ 8 ก.พ. 2554

" (สติ, ปัญญา, โลภะ, โทสะ ฯลฯ) เป็นสังขารขันธ์

แล้วเราจะไปทำอะไรคะ

นอกจากรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง

ไม่ใช่ทำค่ะ แต่รู้ เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้น

ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะคะ"

ท่านอาจารย์พูดด้วยเมตตาให้กำลังใจผู้ศึกษาธรรม

ท่านแสดงธรรมไพเราะให้ผู้ที่ฟังเกิดความอาจหาญ ร่าเริงอยู่สม่ำเสมอ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 8 ก.พ. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
icenakub
วันที่ 10 ก.พ. 2554

สาธุ ชัดเจนมากครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ