ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ ... มีแต่ธรรมะ
ข้าพเจ้าได้กราบเรียนถามท่านอาจารย์ว่า ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ มีแต่ธรรมะ แล้วที่ เรากำลังนั่งอยู่นี่เป็นอะไร?
ท่านอาจารย์ตอบว่า เป็นธรรมะค่ะ ที่เรายึดถือว่าเป็น คน เป็นเราที่นั่งอยู่ขณะนี้ เป็นเพียงสภาพธรรมหลากหลายที่เกิดดับสืบต่อแต่ละขณะ ตั้งแต่เกิดจนตาย มีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เดี๋ยวเห็น เดี๋ยวได้ยิน ได้ กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และคิดนึก ไม่มีใครสามารถเลือกให้สภาพธรรมใดเกิดได้ ตามต้องการ ไม่มีใครทำ เห็น ได้ เพราะ เห็น เกิดแล้วดับแล้ว เป็นผลของกรรม ไม่ มีเรา ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ธรรมะ เมื่อมีปัจจัยพร้อมสภาพธรรมขณะนี้เกิดแล้ว
เมื่อรู้ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ ก็จะเข้าใจที่เรียกว่า ชีวิต หรือว่า คน สัตว์ ละเอียดขึ้นว่า แท้จริงแล้ว ไม่มีเรา ไม่มีคน เป็นเพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างที่ เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ...
ขณะเห็นเกิด มีเราอยู่ตรงไหน?
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ ...
กราบอนุโมทนาค่ะ ธรรมะเป็นเรื่องลึกซึ้งที่เห็นตามได้ยากทีเดียว คงต้องอบรมเพื่อเจริญปัญญาและข้อสำคัญต้องมีศรัทธาไม่ย่อท้อที่จะศึกษาต่อไป พยายามจะเตือนตนเองอย่างนี้ค่ะ
กราบขอบคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และกัลยาณมิตรทุกท่านที่บ้านธัมมะค่ะ
...ที่เรากำลังนั่งอยู่นี่เป็นอะไร?
ท่านอาจารย์ตอบว่า ...เป็นธรรมะค่ะ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขณะจิตก็ดับไปด้วย ขณะจิตนี้ให้ปัจจัยจิตดวงใหม่ จิตดวงใหม่ก็ไม่ใช่จิตดวงเก่าที่ดับไปนั้น การเกิด-ดับสืบต่อกันของจิต บัญญัติว่าชีวิต โดยปรมัตถ์ไม่ใช่