เกินกรรม

 
k.fon
วันที่  19 ก.พ. 2554
หมายเลข  17908
อ่าน  1,270
กรณีที่สงฆ์สาวกยังมีโมหะอยู่แล้วทำเกินกรรมผู้อื่นต้องได้รับผลกรรม???

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chaiyut
วันที่ 22 ก.พ. 2554

ผู้อื่นที่กำลังได้รับผลของกรรมไม่ดี เพราะเขาเองก็เคยกระทำกรรมชั่วไว้ในอดีตชาติควรเห็นใจ ถ้าอยู่ในวิสัยที่จะช่วยให้เขาพ้นจากวิบากนั้นได้ ควรสงเคราะห์เกื้อกูลตามกำลัง ส่วนผู้ที่กระทำกรรมชั่วในปัจจุบัน ย่อมเสวยผลของกรรมชั่วที่ตนกระทำไว้ในอนาคต ไม่ควรโกรธแค้น ควรสงสารเป็นอย่างยิ่ง ถ้าสงสารไม่ได้ ก็ไม่ควรหวั่นไหว แต่ละคนมีกรรมเป็นของตนเอง เราก็มีกรรมดี - กรรมชั่วเป็นของตนเอง ที่จะตามให้ผลกับตน ไม่มีใครทำให้ เราเท่านั้นทำกรรมเหล่านั้นไว้แล้ว และโลภะ โทสะ โมหะ ที่เรามี ก็ไม่ต่างกับที่ผู้อื่นมี ถ้าสะสมไว้มากจนถึงระดับเดียวกัน ก็อาจถึงขั้นเบียดเบียนหรือทำร้ายผู้อื่นได้ ไม่ควรประมาท ควรศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา ขัดเกลาโลภะ โทสะ โมหะ ของตนครับ กิเลสของใคร ที่จะขัดเกลาได้ ต้องด้วยปัญญาของคนๆ นั้นเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 22 ก.พ. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระธรรมเทศนาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดง ได้ทรงพร่ำสอนพุทธบริษัท นั้นเป็นไปเพื่อเกื้อกูลต่อการเจริญขึ้นของกุศลธรรม ไม่ใช่ กุศลธรรม แต่การที่แต่ละบุคคลจะมีความประพฤติเป็นไปในทางกุศลหรือในทางกุศลนั้น เป็นไปตามการสะมของแต่ละบุคคล ถ้าเป็นผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมอยู่เป็นประจำบ่อยๆ เนืองๆ จิตใจย่อมน้อมไปในทางกุศลได้ ซึ่งเป็นการปรุงแต่งของธรรมฝ่ายดี โดยที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ตามความเจริญขึ้นของปัญญา

ตามความเป็นจริงแล้ว ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลขั้นพระโสดาบัน ก็ย่อมจะมีการกระทำกุศลกรรม ตามกำลังของกิเลส ซึ่งขณะนั้นกิเลสต้องมีกำลังจึงล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ ได้ แต่เมื่อได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม ได้เห็นโทษของกุศลประการต่างๆ ก็ย่อมจะเป็นผู้กระทำตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสได้อย่างแน่นอน คือ ละเว้นจากกุศลกรรมประเภทนั้นๆ ได้ และประการที่ควรพิจารณา คือ แต่ละบุคคลก็เต็มไปด้วยกุศลด้วยกันทั้งนั้น จึงควรเห็นใจผู้ที่มีกุศลด้วยกัน ชีวิตของแต่ละบุคคลไม่แน่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประการที่สำคัญ คือ กุศล เป็นสิ่งที่ควรละ ควรงดเว้น ในทางตรงกันข้าม กุศลเป็นสิ่งที่ควรเจริญ ควรสะสมให้มีขึ้น ให้เจริญขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การสะสมปัญญาซึ่งเป็นความเข้าใจถูก เห็นถูก เพราะเหตุว่าปัญญาเท่านั้นที่จะสามารถดับกิเลสได้, ที่เกิดการกระทำกุศลกรรมเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อนนั้น ก็เพราะยังมีกิเลส สิ่งร้ายๆ ทั้งหลายเกิดขึ้นได้ ก็เพราะกิเลส นั่นเอง แต่ถ้าเป็นกุศลธรรมแล้ว จะไม่เป็นเช่นนั้นเลย ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณchaiyut และทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
aurasa
วันที่ 8 มี.ค. 2554

อนุููโมทนากับทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ