ถ้าไม่ได้ท่านอาจารย์สุจินต์คงไม่มีผมในวันนี้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า การที่กระผมกล่าวว่าถ้าไม่ได้ท่านอาจารย์สุจินต์ก็คงไม่มีผมในวันนี้นั้นเพราะการที่ผมสนใจศึกษาปรมัตถธรรม จิต เจตสิกรูป นิพพานในวันนี้เพราะ มีเพื่อนของพ่อนำไฟล์เสียงธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์มาให้ฟัง แต่ก่อนที่จะรับไฟล์เสียงของท่านอาจารย์สุจินต์มาฟังนั้นได้สนทนาธรรมกัน เดิมทีเดียวเพื่อนของพ่อผมนั้นยังไม่ได้สนใจธรรมะและไม่รู้เรื่องธรรมะเลย พ่อของผมศึกษาธรรมะมาก่อนเป็น 10 ปี แต่พ่อผมก็มานะพยายามจนทำให้เพื่อนของพ่อสนใจ และศึกษาธรรมะ แต่ธรรมะที่พ่อผมศึกษานั้นจะหลายครูบาอาจารย์ แต่ก็มีการศึกษาพระอภิธรรมช่วงหลังมานี้ก็หลายปี จะเน้นหนักไปทางวิปัสสนา แต่ก็เป็นวิปัสสนาแบบผิดๆ คือต้องมีการกำหนดรูปนาม ต้องมีการตั้งท่าทำ เป็นการทำที่ไม่ปกติแต่พ่อผมก็เข้าใจว่ามันถูกทาง จนกระทั่งได้มาพบเพื่อนพ่อผมอีกครั้งและได้สนทนาธรรมกัน ทำให้ผมอึ้งเพราะธรรมะที่เพื่อนของพ่อพูดนั้น เป็นธรรมะที่มี ที่อ้างอิงตลอดนั่นคือพระไตรปิฎก และรู้เรื่อง จิต เจตสิก รูป นิพพาน ค่อนข้างเยอะ มากกว่าพ่อของผมจะเรียกว่าลูกศิษย์ล้ำหน้าอาจารย์ก็ได้ ทำให้ผมศรัทธาในคำสอนขององค์สมเด็จพระ-สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้รู้ในภายหลังว่าผ่านการถ่ายทอดโดยบุคคลที่มีชื่อว่า ท่านอาจารย์สุจินต์และสามารถทำให้คนคนหนึ่งที่ศึกษาธรรมะหลังพ่อผม 10 กว่าปี สามารถรู้และสนใจ เข้าใจ ในพระอภิธรรมได้ขนาดนี้ ผมจึงเกิดความสนใจที่จะฟังดูซิว่า บุคคลที่เพื่อนพ่อเลือกที่จะศึกษาธรรมะด้วยและไม่ไปศึกษาที่อื่นเลยเพราะคิดว่าเจอแล้ว มาถูกทางแล้ว และก็ได้ลองฟัง ปรากฏว่าแค่ได้ยินเสียง และลักษณะของการบรรยายก็รู้สึกว่า ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายได้น่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ สุ้มเสียงไพเราะ อ้างอิงกับพระไตรปิฎกตลอด ไม่มีการเอาความรู้สึกของตนเองมาตอบ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมศรัทธาในตัวท่านอาจารย์สุจินต์ ก็คือประโยคที่ว่า การศึกษาธรรมอันดับแรก ต้องเข้าใจถูก เวลาที่เราศึกษาธรรมะแล้วบ่นว่ายากนั่นคือเรากำลังสรรเสริญพระปัญญาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ ต้องขออนุญาติกราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์จริงๆ ตอนแรกที่เริ่มศึกษาก็ท้อมาก เพราะยากจริงๆ แต่ก็เตือนสติตนเองว่า การที่คนเราสร้างอุปนิสัยเช่นไร ชาติต่อๆ ไปเราก็จะทำเช่นนั้นอีกไปเรื่อยๆ ถ้าเราสร้างอุปนิสัยในการชอบศึกษาพระอภิธรรม ถ้าชาติต่อๆ ไปเรามีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์เราก็จะต่อความรู้ด้านพระอภิธรรมของเราไปเรื่อยๆ ชอบที่จะศึกษา ชอบที่จะฟัง ชอบที่จะเจริญปัญญา ชอบที่จะสนทนาธรรม ถ้าชาติต่อๆ ไป เกิดไปได้ยินได้ฟังพระอภิธรรมเราก็จะสนใจ แต่ถ้าชาตินี้มีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที ได้มีโอกาสทันคำสอน ได้มีโอกาสดำรงชีวิตอยู่ได้ มีโอกาสที่จะเลือก ทำดี ทำชั่ว ได้มีโอกาสพบเจอบุคคลที่ประเสริฐ และมีความรู้แตกฉานในพระ-อภิธรรมคือ ท่านอาจารย์สุจินต์ แล้วไม่สนใจศึกษาก็ไม่รู้ว่าอีก กี่แสนโกฏิกัปป์จะได้เจอและสนใจ ผมจึงเลือกที่จะสนใจ และศึกษาพระอภิธรรม แม้ชาตินี้จะได้เพียงแค่ 1เปอร์เซนต์ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว แม้ตายก็ไม่เสียดาย และที่สำคัญและคุ้มค่าที่สุดในชีวิตก็คือ แม่ของผมซึ่งแทบไม่มีความรู้เรื่องพระอภิธรรมเลย แต่ทุกวันนี้แม่ผมฟังธรรมะที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายทุกวันและชื่นชอบ และเริ่มเข้าใจธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านอาจารย์สุจินต์นำมาบรรยาย จนพ่อผมแซวว่า ผมทำยังไงแม่ถึงวันวันเอาแต่ฟังแต่ท่านอาจารย์สุจินต์ และทุกวันนี้ผมก็ดีใจที่พ่อของผมเริ่มเชื่อธรรมะที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย เพราะตอนแรกที่เพื่อนพ่อนำหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปมาให้อ่าน พ่อผมอ่านแล้วบ่นว่าเข้าใจยากและเสียเวลา เพราะอายุจะเจ็ดสิบแล้ว แต่ผมก็พูดให้พ่อฟังว่า ยากแต่ถูก ถ้าเจอของถูกแล้วไม่สนใจเมื่อไหร่จะมีโอกาสได้เจออีก ไม่ต้องเสียเวลาอ่านหลายครูบาอาจารย์หรอก ถ้าไม่เข้าใจก็อ่านเล่มนี้เล่มเดียวหลายๆ รอบ ยังดีกว่าศึกษาหลายตำรับหลายตำราแล้วก็ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า วันนี้ผมก็ดีใจที่พ่อของผมเริ่มเชื่อธรรมะที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย และศึกษา
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของหัวข้อ ถ้าไม่ได้ท่านอาจารย์สุจินต์คงไม่มีผมในวันนี้ ต้องขอกราบขอบพระคุณแทบเท้าคุณพ่อ คุณแม่ ที่ทำให้ผมเกิดและมีชีวิตตลอดมาจนทุกวันนี้ ต้องขอกราบแทบเท้าคุณนกเอี้ยง เพื่อนพ่อข้างต้นที่ได้นำธรรมดีๆ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่บรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มาเผยแพร่ ต้องขอกราบแทบเท้าท่านจักรกฤษณ์ที่ได้ช่วยสอน และสนทนาธรรมให้ความรู้รวมถึงอำนวยสื่อธรรมะทุกๆ สิ่ง ของท่านอาจารย์สุจินต์แก่กระผม และต้องขอกราบอนุโมทนาในบุญกุศลที่ท่านจักรกฤษณ์และคุณนกเอี้ยง ช่วยเผยแพร่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ จนมีผู้สนใจศึกษาและหันมาเจริญปัญญา จากที่หลายท่านชอบอิทธิฤทธิ์ และผมก็ดีใจที่ได้เผยแพร่และทำให้พระสงฆ์บางรูปสนใจในพระอภิธรรม มากกว่าอิทธิฤทธิ์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเพื่อนสหธรรมทุกท่านในเวปบ้านธัมมะ ที่ช่วยให้ความรู้ และสุดท้ายขอตั้งจิตอฐิษฐาน ถ้าชาติหน้าฉันใดได้มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ ขอให้ได้พบเจอบุคคลเช่นท่านอาจารย์สุจินต์ และเพื่อนสหธรรม ที่มีสัมมาทิฐฐิ อย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ
ขออนุโมทนาในบุญกุศลของคุณโชติธัมโมและทุกๆ ท่านที่ได้กล่าวถึงด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ขอกราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่นำพระธรรมคำสอนของ
องค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาบรรยายด้วยความอดทนและให้ผู้ฟังเข้าใจถึงความละเอียด
และความลึกซึ้งของธรรมด้วยค่ะ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านโชติธัมโมค่ะ...
ขออนุโมทนาในบุญกุศลของคุณโชติธัมโมและทุกๆ ท่านทีมีสัมมาทิฐฐิ อย่างนี้ค่ะ
ในพระไตรปิฏกแสดงไว้ว่า อาจารย์ผู้มีพระคุณ มีอุปาการะ แก่ศิษย์ ด้วยการให้ถึง
พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนั้น ศิษย์ก็ควรรู้คุณ ประพฤติปฏิบัิติตามพระธรรมคำสอนค่ะ
ต้องขออนุโมทนากับคุณโชติธมฺโมด้วยเป็นอย่างยิ่งนะครับ
โดยเฉพาะการทำให้บิดามารดาได้มีโอกาสศึกษาอบรมพระธรรมที่ตรงและถูกต้องจากท่านอาจารย์สุจินต์
เรื่องนี้ทำให้ผมระลึกถึงพระสูตรๆ หนึ่งที่ท่านกล่าวไว้ว่า
"การตอบแทนพระคุณมารดาบิดาทำไม่ได้ง่าย เพราะเพียงแต่ปรนนิบัติรับใช้ท่านด้วยประการต่างๆ ก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนพระคุณท่านเลย
แต่การทำให้บิดามารดาตั้งมั่นในศรัทธา ตั้งมั่นในศีล ตั้งมั่นในการบริจาค และตั้งมั่นอยู่ในปัญญา การกระทำอย่างนี้จึงจะชื่อว่า ตอบแทนพระคุณของบิดามารดาแล้ว"
การที่คุณโชติธมฺโมได้ทำให้บิดามารดามีโอกาสฟังและศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องย่อมทำให้ท่านตั้งมั่นศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา ข้างต้น ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ครับ
ผมเองก็เพียรพยายามเช่นกันที่จะให้บิดามารดาได้มีโอกาสฟังและศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องจากท่านอาจารย์สุจินต์ เพื่อที่ท่านจะได้มีจุดเริ่มต้นที่ตรงจริงๆ อันเป็นรากฐานสำคัญของความตั้งมั่นที่แท้จริงในศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา
แต่ไม่ว่าจะจัดหาวิทยุพร้อมเทป ซีดี ส่งหนังสือ ชวนไปฟังธรรมของท่านอาจารย์ สนทนาธรรมให้ท่านเข้าใจ แม้กระทั่งเขียนบทความเรื่องความสำคัญของการศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องให้ท่านอ่านเพราะคุยกันอย่างเดียวไม่พอ แต่ก็ยังไม่บรรลุผล
ก็คงต้องเพียรกันต่อไป อย่างน้อยก็ให้ท่านได้ผ่านหูผ่านตาในธรรมะที่ท่านอาจารย์สุจินต์เมตตาถ่ายทอดบ้าง เผื่อในโอกาสต่อๆ ไป ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือ ชาติไหน การสะสมความเข้าใจในการศึกษาธรรมะที่ถูกต้องมาบ้าง จะทำให้ท่านได้สนใจศึกษาในทางที่ถูกต้องต่อไปครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณโชติธมฺโมและทุกท่านด้วยครับ
ผมไม่แน่ใจว่าท่านเป็นพระหรือฆราวาส เพราะสังเกต usernameแล้ว จะอิงไปทางพระมากกว่า จึงขอแสดงความคิดเห็นด้วยภาษากลางๆ ไปพลางก่อน ขออนุโมทนาในความเป็นอภิชาติบุตรของเจ้าของกระทู้ และขอสิ่งนี้จงเป็นพลวปัจจัยแก่ท่านในการเข้าสู่อริยมรรค และอริยผลในภายภาคหน้านี้ครับ อนุโมทนาในกุศลจิตของท่าน และปรโตโฆสะทุกคนที่มีส่วน เกี่ยวข้องกับท่าน
ในพระไตรปิฏกแสดงไว้ว่า อาจารย์ผู้มีพระคุณ มีอุปการะ แก่ศิษย์ ด้วยการให้ถึง
พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนั้น ศิษย์ก็ควรรู้คุณ ประพฤติปฏิบัิติตามพระธรรมคำสอนค่ะ
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก
การได้ฟังพระสัทธรรมก็แสนยาก
การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าก็แสนยาก
ขออนุโมทนาครับผม
สาธุ อนุโมทนาครับ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
กราบขอบพระคุณอาจารย์และอาจารย์วิทยากรทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและขอกราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยเศียรเกล้า ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านด้วยครับ
ขออนุโมทนาด้วยกับท่านโชติธัมโม และ กุศลจิตของทุกท่านค่ะ น่ายินดียิ่งจริงๆ
ดิฉันก็มีประสบการณ์คล้ายกันกับท่านโชติธัมโม คือ เมื่อก่อนคุณพ่อไม่ได้สนใจธรรมะเลย ไม่เคยแม้แต่จะสวดมนต์ พอพบปัญหาทางบ้านทำให้ทุกข์มาก และก็มีปัญหาสุขภาพ ต้องผ่าตัด พอเห็นท่านทุกข์ ก็คิดจะให้ท่านคลายทุกข์ ก็กล่าวเรื่องธรรมะ เรื่องกฏแห่งกรรม บ้าง นำหนังสือของมูลนิธิฯ ที่เขียนโดย สหายธรรม หลายๆ ท่าน จากประสบการณ์จริงมาให้ท่านอ่าน
ปรากฏว่าท่านยอมรับไปอ่าน เข้าใจแม้อาจไม่ลึกซึ้งเท่าการฟังพระอภิธรรม แต่ก็ทำให้ท่านมีที่พึ่งทางใจ คือ การฟังการอ่านพระธรรมทั้งจากซีดี เอ็มพี สาม และหนังสือของมูลนิธิฯ ท่านเคยบอกว่ายาก แต่ก็จะพยายามอ่านศึกษาและฟังไปเรื่อยๆ ค่ะ ทุกวันนี้ท่านรู้จักการเจริญกุศล การทำทาน การกล่าวธรรมะกับผู้อื่น อบรมผู้อื่นให้อยู่ในศีลในธรรมได้ และ จะให้ดิฉันหาหนังสือจากมูลนิธิมาเพิ่มด้วย แล้วก็ให้เด็กๆ ในบ้านไปอ่านตามที่เขาสนใจค่ะ แม้แต่น้องสาวดิฉัน ก็พูดว่า ท่านเปลียนไปมากๆ จากคนดุ เข้มไม่ฟังใคร เอาแต่ตนเป็นศูนย์กลาง เป็นคน เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม และเป็นเหตุผลมากขึ้น ไม่วู่วาม โวยวาย รู้จักสละเงินเพื่อบริจาค ในการกุศลต่างๆ ได้โดยง่ายค่ะ
ทั้งๆ ที่เมือก่อนจะพบทุกข์กับปัญหาต่างๆ เคยให้ท่านอ่าน ท่านก็จะ บ่ายเบี่ยง เลี่ยงๆ ไม่อ่าน ทำให้รู้สึกดีใจ ที่ท่านได้มีที่พึ่งด้วยธรรมแล้ว ค่ะ ขอกราบขอบพระคุณท่าน อจ.สุจินต์ ท่านวิทยากร และสหายธรรมทุกท่านที่ได้เขียนหนังสือ ให้่มูลนิธิฯ หลายเล่ม จากชีวิตส่วนตัว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ ขอนุโมทนาทุกท่านค่ะุ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย และท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยเศียรเกล้า "มีคำกล่าวที่ว่า แม้จะให้พ่อแม่มานั่งบนบ่าเราทั้งซ้ายและขวา ให้ท่านถ่ายปัสวะ อุจจระ บนบ่าเราเลี้ยงดูท่าน ทำอย่างนี้จนกระทั่งท่านเสียชีวิตก็ยังตอบแทนพระคุณของท่านไม่หมด" "การตอบแทนพระคุณมารดาบิดาทำไม่ได้ง่าย เพราะเพียงแต่ปรนนิบัติรับใช้ท่านด้วยประการต่างๆ ก็ยังไม่ชื่อว่าตอบแทนพระคุณท่านเลย แต่การทำให้บิดามารดาตั้งมั่นในศรัทธา ตั้งมั่นในศีล ตั้งมั่นในการบริจาค และตั้งมั่นอยู่ ในปัญญา การกระทำอย่างนี้จึงจะชื่อว่า ตอบแทนพระคุณของบิดามารดาแล้ว" จริงดังท่านจักกฤษณ์กล่าวครับ และก็ขอน้อมจิตและเศียร อนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่มีสัมมาทิฐฐิ และคุณ aurasa ด้วยใจจริง น่าปลื้มใจ จริงๆ ครับ
..จะมีสักกี่คนหนอ ...พยายามชักนำตนไปสู่หนทางดับทุกข์ด้วย และไปพร้อมๆ กับพยายามแบ่งปันหนทางนั้นเพื่อฉุดให้เขารู้จักช่วยตัวเองดับทุกข์เองได้ ความกตัญญูที่ชี้ทางสว่างแก่ผู้มีพระคุณเป็นธรรมที่ลูกๆ ทุกคนควรกระทำยิ่ง ไม่ใช่แค่มอบปัจจัยดำรงชีพ
__/l___ขออนุโมทนาแด่ความดีของท่านด้วยคนขอรับกระผม