สิ่งเดียวที่ผู้มุ่งเจริญกุศล ...มองข้ามไป

 
๐คุณย่า๐
วันที่  25 ก.พ. 2554
หมายเลข  17946
อ่าน  1,494

๒๗ มกราคม ๒๕๕๑

" ... สิ่งเดียวที่ผู้มุ่งเจริญกุศล มองข้ามไป ... "

คุณนิรันด์ ....จากการที่ศึกษาแล้ว เราเห็นว่าการขัดเกลากิเลส และ

การเจริญกุศล เป็นสิ่งที่มีประโยชน์

ท่านอาจารย์ มีปัญญาหรือเปล่า? มีความรู้ถูกต้องตรงความเป็นจริง

ของสภาพธรรมหรือเปล่า? (ถ้าไม่รู้ว่าเป็นธรรม) ถึงจะดีเท่าไร ก็ยังเป็นเราดี วันนี้คุณนิรันด์ทำความดี ตื่นขึ้นมาก็ทำอาหารให้คุณแม่ (แต่ความ) ดี (มาก) กว่านี้ก็ยังมี (คือการอบรมสมถภาวนาจน) จิตสงบ ไม่ใช่ (เพียง) ขั้นทานขั้นศีล (แต่) สามารถที่จะสงบถึงขั้นรูปฌานกุศลแต่ (ความดีถึงเพียงนั้น) ก็ยังเป็นคุณนิรันด์ (เพราะเหตุว่า) ไม่มีความเห็นถูกตามความเป็นจริงเลย ว่าเป็นธรรม เพราะฉะนั้น จะเอาอะไรละความติดข้อง ความไม่รู้ในสภาพธรรม เพราะกุศลยังมีตราบใด แสดงว่ายังมีอวิชชาความไม่รู้ (เป็นปัจจัย) อยู่ตราบนั้น ไม่ต้องกล่าวถึงอกุศลซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จึงเป็น อกุศล โลภะบ้าง โทสะบ้างโมหะบ้าง แน่นอน แต่แม้ กุศล จะเกิด โดยไม่มีอวิชชา (เป็นปัจจัย) นั้นไม่มี ต้องมีอวิชชาเป็นพื้น แล้วจะรู้ไหม ว่าแม้กุศลนั้น ก็ยังมีอวิชชาเป็นพื้นอยู่

คุณนิรันด์ เวลาผู้ฟังถามเรื่องการขัดเกลา หรือการเจริญกุศล อาจารย์

ก็จะตอบตามแนวนี้ ให้เข้าใจ ให้รู้ความจริง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนว่าท่านอาจารย์จะพูดคำที่ลึกซึ้ง

ท่านอาจารย์ เพราะว่าทุกคน ข้ามปัญญา ไปหากุศล

คุณนิรันด์ หมายความว่า จะไปพร้อมๆ กันไม่ได้หรือครับท่านอาจารย์ มีปัญญาหรือเปล่า? ถ้าไม่มีปัญญาเลย จะพร้อมปัญญา

เลยได้ไหม? เพราะฉะนั้น เวลานี้ขาดอะไร ลองคิดดู ทานก็มีกันเยอะๆ ศีลก็มี แต่ขาดอะไร ? ....... (ขาด) ปัญญา

คุณนิรันด์ แต่จริงๆ ผมฟังท่านอาจารย์แล้ว ผมก็เข้าใจ แต่ผมคิดว่า

ผมก็ต้องกลับมาถามท่านอาจารย์อีก เพราะไม่ใช่ผมคนเดียว ผู้ฟังที่

ฟังนี้ทุกคนนี้แน่นอน ซึ่งถามปัญหานี้มาตลอดหลายสิบปี ก็ยังต้อง

ถามอีกๆ

ท่านอาจารย์ เพราะอะไรคะ รู้ไหมว่าเพราะอะไร?

คุณนิรันด์ มีความรู้สึกว่า........

ท่านอาจารย์ เพราะไม่รู้ว่าเป็นธรรม กุศล ...ดี ไม่ผิด กุศล ...สภาพ

ธรรมที่ดีงาม แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรม แล้วจะเป็นบารมีได้ยังไงล่ะคะ?

คุณนิรันด์ หมายความว่า ถ้าผู้ฟังเข้าใจเรื่องสติปัฏฐานแล้ว ว่าขณะนั้น

เป็นสภาพธรรม

ท่านอาจารย์ ถ้าเข้าใจจริงๆ จะเดือดร้อนไหม? คือ รู้ว่า กุศลก็เป็นธรรม

อกุศลก็เป็นธรรม ธรรมนี่แสดงถึงความเข้าใจ ถ้ายังเป็นเราฟัง เพื่อเราเป็นกุศล เราทั้งหมดเลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรม

คุณนิรันด์ รู้สึกเป็นห่วงว่า ถ้าเราไม่ขัดเกลาความเห็นแก่ตัวเลย แล้ว

เราจะถึงหนทางที่จะหมดกิเลสได้ในแสนโกฏิกัปป์อะไรอย่างนี้

ท่านอาจารย์ จะออกจากสังสารวัฏฏ์ หรือ จะอยู่ในภพภูมิที่ดี เพราะกุศลที่

ได้กระทำแล้ว..... (ย่อมให้ผลนำเกิดในภพภูมิที่ดีได้ ซึ่งก็ยังไม่พ้นไปจากการเป็นที่ตั้งของความติดข้อง)

คุณนิรันด์ มีความเข้าใจว่า การเจริญกุศลนี้ ท่านบอกว่า เป็นปัจจัยที่

จะเกื้อกูลให้ออกจากสังสารวัฏฏ์ด้วย

ท่านอาจารย์ (กุศลนั้น) ต้องประกอบด้วยปัญญา อย่างเดียวที่ข้าม คือ

ปัญญา อย่างอื่นก็เข้าใจได้ เรื่องกุศล และ อกุศล แต่มีเราที่ต้องการ (เจริญกุศล ไม่อยากให้มีอกุศล แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรม)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
พุทธรักษา
วันที่ 25 ก.พ. 2554

ขออนุโมทนา.

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
somjad
วันที่ 26 ก.พ. 2554

ที่เรียกว่า สัพเพธรรมาอนัตตา จะรู้ได้ก็ด้วย "ปัญญา"

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
orawan.c
วันที่ 27 ก.พ. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
tegg2008
วันที่ 27 ก.พ. 2554

กุศลนั้น...ต้องประกอบด้วยปัญญา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 28 ก.พ. 2554

ท่านอาจารย์ เพราะไม่รู้ว่าเป็นธรรม กุศล ...ดี ไม่ผิด กุศล ...สภาพ

ธรรมที่ดีงาม แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรม แล้วจะเป็นบารมีได้ยังไงล่ะคะ?

------------------------------

ในชีวิตประจำวันผู้นับถือพระพุทธศาสนา..รู้จักกุศลขั้นทานศีลก่อนศึกษาธรรมะไม่เข้าใจคำว่าปัญญาและคิดว่าปัญญาเป็นความฉลาดในการดำรงชีวิตทางโลกเท่านั้น..กุศลขั้นทานศีลเพียงพอแล้ว...ต่อเมือศึกษาพระธรรม (จากท่านอาจารย์) ยิ่งศึกษายิ่งเข้าใจว่าปัญญาสำคัญและหากไม่รู้และเข้าใจว่าเป็นธรรมะ..ไม่เป็นหนทางเจริญปัญญาที่เป็นบารมีในการละอกุศลทั้งปวง


เชิญคลิกอ่าน....
ความเกิดขึ้นของกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา [ธรรมสังคณี] -------------------------- ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chaiyut
วันที่ 28 ก.พ. 2554

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณ JANYAPINPARD ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
mikemongo1
วันที่ 28 ก.พ. 2554

อ้างอิง

1. จากหนังสือ พระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน โดย.. นิน่า วันกอร์คอม จัดพิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๓๒ หน้า ๖

จิตบางประเภทเป็นอกุศล จิตบางประเภทเป็นกุศล อกุศลจิตและกุศลจิตเป็นเหตุให้เกิดกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นอกุศลและกุศลกรรมได้.....

2. กระทู้ 17952-kanchana.c

.....เมื่อหมดอวิชชา เป็นพระอรหันต์ ก็หมดทั้งกุศลและอกุศล.....

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
mikemongo1
วันที่ 28 ก.พ. 2554

อ้างอิงกระทู้ 016539-ความเห็นที่ 2

.....ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย บุญย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา, บาปก็มิได้มี; บุญบาปทั้งสองเธอละเสียแล้ว" ดังนี้

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
panasda
วันที่ 1 มี.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pamali
วันที่ 2 มี.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
tegg2008
วันที่ 7 ก.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

"สภาพธรรมเกิดแล้ว มีแล้วในขณะนี้ จากไม่มีแล้วเกิดมี เพราะเหตุปัจจัย

แล้วก็ดับไปไม่มีเหลือ สิ่งที่เกิดแล้วดับไป จะไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์

ผ่านไปทุกขณะ"

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Graabphra
วันที่ 8 ก.ย. 2554
ขอบพระคุณมาก และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kinder
วันที่ 9 ก.ย. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ