สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง [อรรถกถาโคปาลสูตร]
[เล่มที่ 44] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 421
ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงนายโคบาลนั้น ผู้นั่งอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่งแล ด้วยธรรมีกถา ฯลฯ เสด็จลุกขึ้นจากอาสนะหลีกไป.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สนฺทสฺเสสิ ความว่า พระองค์เมื่อทรงแสดงธรรมมีกุศลเป็นต้น วิบากของกรรม โลกนี้ โลกหน้า โดยประจักษ์ในนัยมีอาทิว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ในเวลาจบอนุบุพพิกถา จึงทรงชี้แจงอริยสัจ ๔.
บทว่า สมาทเปสิ ความว่าให้เธอยึดเอาธรรมมีศีลเป็นต้นโดยชอบ คือให้เธอตั้งอยู่ในธรรมมีศีลเป็นต้นนั้น โดยนัยมีอาทิว่า เพื่อบรรลุสัจจะ เธอให้ธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในตน.
บทว่า สมุตฺเตเชสิ ความว่า ทรงให้ธรรมเหล่านั้นที่สมาทานแล้วอบรมโดยลำดับ อันเป็นส่วนแห่งธรรมเครื่องตรัสรู้ มีความเข้มแข็งและสละสลวย ให้อาจหาญโดยชอบ คือให้รุ่งเรืองโดยชอบทีเดียว โดยประการที่จะนำมาซึ่งอริยมรรคโดยพลัน.
บทว่า สมฺปหํเสสิ ความว่าทรงให้ร่าเริงด้วยดี โดยทำจิตให้ผ่องแผ้ว ด้วยการแสดงภาวะแห่งภาวนามีคุณวิเศษทั้งเบื้องต้นและเบื้องปลาย.
อีกอย่างหนึ่ง ในข้อนี้ พึงทราบการชี้แจงด้วยบรรเทาสัมโมหะ ในธรรมที่มีโทษและหาโทษมิได้ และในสัจจะมีทุกขสัจเป็นต้น การให้สมาทานด้วยการบรรเทาความประมาทในสัมมาปฏิบัติ การให้อาจหาญด้วยการบรรเทาการถึงความคร้านแห่งจิตและความร่าเริงด้วยการสำเร็จสัมมาปฏิบัติ.