ทุกข์ทั้งหมดย่อมมาจากการยึดถือว่า เป็นเรา
ขออนุโมทนาค่ะ นำมาพิจารณาใช้กับชีวิตประจำวันได้จริงๆ ...
"ทุกข์นั้น ตัณหามิได้สร้างแล้ว ย่อมไม่มา"
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านครับ
กรุณาอ่านเรื่อง ไม่ใช่เรา
[เล่มที่ 18] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 289
ภิกษุทั้งหลาย ส่วนอริยาสาวกผู้สดับแล้ว ผู้เห็นพระอริยะทั้งหลาย
ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ได้รับแนะนำดีแล้วในธรรมของพระอริยะ เห็น
สัตบุรุษฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ได้รับแนะนำดีแล้วในธรรมของสัตบุรุษ
ย่อมพิจารณาเห็นรูปว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา
ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่
อัตตาของเรา ย่อมพิจารณาเห็นสัญญาว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น
นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา ย่อมพิจารณาเห็นสังขารทั้งหลายว่า นั่นไม่ใช่ของเรา
เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา ย่อมพิจารณาเห็นรูปที่เห็นแล้ว เสียง
ที่ฟังแล้ว กลิ่น รส โผฐัพพะที่ทราบแล้ว อารมณ์ที่รู้แจ้งแล้ว ถึงแล้ว
แสวงหาแล้ว ใคร่ครวญแล้วด้วยใจว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่น
ไม่ใช่อัตตาของเรา
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มได้ที่...
เหตุแห่งการยึดมั่นว่าเป็นของเรา [เอตังมมสูตร]
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ คุณ Pirmsombat ที่ได้นำคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ ฯ มากล่าวอีกครั้งค่ะ
" ถ้ายังไม่ถึง (การดับการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนเป็นสมุจเฉท)
ในบางกาลก็จะต้องเป็นทุกข์ เพราะการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน
และถ้ายึดถือเหนียวแน่นมาก ...ทุกข์นั้นก็ต้องเพี่มมากขึ้น "
ที่ปุถุชนอย่างเราเป็นคนเจ้าทุกข์มาก ก็เพราะเหตุฉะนี้แล
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอครับ