สัมภเวสี
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่ยังมีกิเลส ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดถึงความเป็นพระอรหันต์ก็ยังต้องมีการเกิดในภพต่างๆ อยู่ร่ำไป ยังเดินทางต่อไปอีกในสังสารวัฏฏ์ ดังนั้น เมื่อกล่าวอย่างกว้างๆ แล้ว ใครก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ก็ได้ชื่อว่าเป็นสัมภเวสีทั้งหมด เพราะคำว่า สัมภเวสี แปลตามศัพท์ได้ว่า ผู้แสวงหาการเกิด หมายความว่า เป็นผู้ยังต้องเกิดอีก ตามข้อความที่ว่า [เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่มที่ ๑๗ -หน้าที่ ๕๖๖, ๕๖๗ เหล่าสัตว์ที่เสาะหา คือ แสวงหาการสมภพ คือ การเกิด ได้แก่ การบังเกิดขึ้น ชื่อว่า สัมภเวสี. สัตว์เหล่าใดกำลังแสวงหาการเกิด สัตว์เหล่านั้นชื่อว่า สัมภเวสี, คำว่า สัมภเวสี นี้ เป็นชื่อของพระเสขะและปุถุชนผู้กำลังแสวงหาการเกิดต่อไป เพราะยังละสังโยชน์ในภพไม่ได้ (คือ ละความติดข้องในภพ ยังไม่ได้) .
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ oomและทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณอจ.คำปั่นค่ะ เรื่องสัมภเวสีนี้มีน้องมาสอบถาม เนื่องจากรุ่นพี่มีญาติที่เสียชีวิตไป มาปรากฎให้เห็น คือ มานอนอยู่ข้างๆ ก็สงสัยว่าคนที่ตายไปแล้วต้องเกิดทันที แต่ทำไมจึงยังมาปรากฎให้เห็นในรูปเดิม จึงไปให้พระนั่งทางในดู ท่านบอกว่าเป็นสัมภเวสี คือ เป็นวิญญาณที่กำลังรอการเกิด น้องก็เลยสงสัยว่า ในเมื่อตายแล้วเกิดทันที ทำไมคนที่ตายแล้วจึงยังมาให้ญาติเห็นได้อีก สิ่งที่เห็นนั้นเป็นภพใหม่ของเขาหรือไม่ และเป็นภพอะไร ซึ่งดิฉันก็ฟังธรรมจากท่านอจ.สุจินต์มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ไม่เคยได้ฟังเรื่องนี้ จึงตอบไม่ได้
สัมภเวสี คือผู้ที่เวียนว่ายตายเกิด ตายแล้วเกิดทันที ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้
เช่น มัฏฐกุณฑลี ตายแล้วเกิดเป็นเทพบุตร เวลามาหาพ่อก็แปลงเป็นรูปกายเดิมค่ะ
ผู้ที่ยังมีกิเลสยังคงมีการเวียนว่ายตายเกิดไม่จบสิ้น เพราะจิตดวงหนึ่งๆ ที่เกิดขึ้น เป็นปัจจัยให้จิตดวงต่อไปเกิดต่อทันที ไม่มีระหว่างคั่น ทุกๆ ขณะ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์จึงไม่สามารถดับภพชาติได้ เพราะเมื่อเสียชีวิต คือ มีจุติจิตของชาตินี้เกิดขึ้นและดับไป จุติจิตนั้นเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิดต่อทันที ไม่มีระหว่างคั่น เป็นบุคคลใหม่ทันที ซึ่งแล้วแต่กรรมว่าจะทำให้ผู้นั้นปฏิสนธิในภูมิใด อาจเป็นสุคติภูมิ ได้แก่ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖ รูปพรหม ๑๖ อรูปพรหม ๔ หรือ อาจปฏิสนธิในทุคติภูมิ ได้แก่ นรก ๑ เปรต ๑ อสุรกาย ๑ สัตว์เดรัจฉาน ๑
ข้อความในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ว่า ในสมัยพุทธกาล ผู้ที่เกิดเป็นเปรตหรืออสุรกาย หรือเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นต่างๆ รวมทั้งรูปพรหม สามารถปรากฎให้มนุษย์เห็นได้ครับ