ข่มกิเลสด้วยฌาน [เอกนิบาต]
[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 67
เพราะภิกษุบางรูป มากไปด้วยการเข้าปฐมฌานเป็นต้น โดยนี้ยังกล่าวแล้วนั่นแล กิเลสย่อมไม่ได้โอกาส เป็นอันข่มได้ด้วยอำนาจสมาบัติ ท่านกระทำกิเลสให้เป็นอันข่มได้โดยประการนั้น นั่นแล คลายกำหนัดได้แล้ว ย่อมยึดพระอรหัตไว้ได้ เหมือนพระมหาติสสเถระฉะนั้น.
ได้ยินว่า พระมหาติสสเถระได้สมาบัติ ๘ ตั้งแต่เวลาที่มีพรรษา ๘ ท่านกล่าวธรรมได้ใกล้เคียงอริยมรรค ด้วยอำนาจเรียนและการสอบถาม เพราะกิเลสที่ถูกข่มไว้ด้วยสมาบัติไม่ฟุ้งขึ้น แม้ ในเวลาที่ท่านมีพรรษา ๖๐ ก็ไม่รู้ตัวว่า ยังเป็นปุถุชน ครั้นวันหนึ่ง ภิกษุสงฆ์ จากติสสมหาวิหาร ในบ้านมหาคาม ได้ส่งข่าวแก่ พระธัมมทินนเถระ ผู้อยู่ที่หาดทรายว่า ขอพระเถระจงมากล่าวธรรมกถา แก่พวกกระผม พระเถระรับคำแล้ว คิดว่า ภิกษุผู้แก่กว่า ไม่มีในสำนักของเรา แต่พระมหาติสสเถระเล่า ก็เป็นอาจารย์ผู้บอกกรรมฐานแก่เรา เราจะตั้งท่านให้เป็นพระสังฆเถระแล้วจักไป ท่านอันภิกษุสงฆ์แวดล้อมแล้ว ไปยังวิหารของพระเถระ แสดงวัตรแก่พระเถระ
ในที่พักกลางวันแล้ว นั่งณ.ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระเถระกล่าวว่า ธัมมทินนะ. ท่านมานานแล้วหรือ? พระธัมมทินนเถระกล่าวว่า ท่านผู้เจริญขอรับ ภิกษุสงฆ์ส่งข่าวสาสน์จาติสสมหาวิหารมาถึง กระผม ลำพังกระผมผู้เดียวก็จักไม่มา แต่กระผมปรารถนาจะไปกับท่านจึงได้มา ท่านกล่าวสาราณิยกถาถ่วงเวลาให้ช้าๆ แล้วถามว่า ท่านผู้เจริญ ท่านบรรลุธรรมนี้เมื่อไร
พระเถระกล่าวว่าท่านธัมทินนะ ประมาณ ๖๐ ปี พระธัมมทินนเถระกล่าวว่า ท่านผู้เจริญ ท่านใช้สมาธิหรือ พระเถระกล่าวว่าขอรับท่าน พระธัมมทินนเถระ กล่าวว่า ท่านผู้เจริญ ท่านเนรมิตสระโปกขรณีสระหนึ่งได้ไหม พระเถระกล่าวว่า ท่าน ข้อนั้นไม่หนักเลย แล้วเนรมิต สระโปกขรณี ขึ้นในที่ต่อหน้า และถูกท่านกล่าวว่า ท่านจงเนรมิต กอปทุม กอหนึ่งในสระนี้ ก็เนรมิตกอปทุมแม้นั้น พระธัมมทินนเถระ กล่าวว่า บัดนี้ ท่านจงสร้างดอกไม้ใหญ่ในกอปทุมนี้ พระเถระก็แสดงดอกไม้แม้นั้น ถูกกล่าวว่า ท่านจงแสดงรูปหญิงมีอายุประมาณ ๑๖ ปี ในดอกไม้นี้ ก็แสดงรูปหญิงแม้นั้น ลำดับนั้น พระธัมมทินนะ กล่าวกะพระเถระนั้นว่า ท่านผู้เจริญ ท่านจงใส่ใจถึงรูปหญิงนั้น บ่อยๆ โดยความงาม พระเถระแลดูรูปหญิงที่ตนเนรมิตขึ้น เกิดความกำหนัดขึ้นในเวลานั้น จึงรู้ตัวว่ายังเป็นปุถุชน จึงกล่าวว่า ท่านสัปปุรุษ ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของผม แล้วนั่งกระโหย่งในสำนักของอันเตวาสิก พระธรรมทินนะ กล่าวว่า ท่านผู้เจริญ กระผมมา
เพื่อประโยชน์นี้เอง แล้วบอกกรรมฐานเบาๆ เนื่องด้วยอสุภแก่พระเถระ แล้วออกไปข้างนอกเพื่อให้โอกาสแก่พระเถระ พระเถระ มีสังขารอันปริกรรมไว้ดีแล้ว พอพระธัมมทินนะนั้น ออกไปจาก ที่พักกลางวันเท่านั้น ก็ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ลำดับนั้น พระธัมมทินนเถระ กระทำท่านให้เป็นพระสังฆเถระ ไปยังมหาติสสวิหาร แสดงธรรมกถาแก่สงฆ์ กิเลสอันพระเถระเห็นปานนั้น ข่มแล้ว ก็เป็นอันข่มแล้วโดยประการนั้นนั่นแล