หลีกเร้นออกอยู่...
หลีกเร้น ไม่ใช่ไปอยู่ในที่เงียบๆ แต่ผู้เดียว
หลีกเร้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่ขึ้นอยู่กับสภาพจิตเป็นสำคัญ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในป่า โคนไม้ เรือนว่าง แต่จิตเป็นอกุศล เต็มไปด้วยความติดข้อง ความไม่รู้ ขณะนั้นไม่ชื่อว่า หลีกเร้น เพราะการหลีกเร้น เป็นการหลีกออกจากอกุศล หรือสงัดจากอกุศลนั่นเอง ที่ควรพิจารณาคือ ถึงแม้ว่าจะอยู่กันหลายคนแต่จิตเป็นกุศลก็ชื่อว่าหลีกเร้น
กุศลทุกประการ.....หลีกเร้นจากอกุศล ขณะที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ขณะที่สติระลึกตรงลักษณะสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง ขณะนั้น กำลังหลีกเร้นจากความเห็นผิดความสำคัญตน ความยึดถือในสภาพธรรมว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ เป็นบุคคลสิ่งของต่างๆ
เมื่อมีเรื่องราวต่างๆ เป็นอารมณ์เพราะความไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็ตามมาด้วยอกุศล ความติดข้อง ความขุ่นเคืองใจ ความสงสัย.. ขณะนั้นก็ไม่หลีกเร้น ไม่สงัดออกจากความไม่รู้ ไม่สงัดออกจากโลภะ และ โทสะ
หลีกเร้นด้วยปัญญา ท่านอนาถบิณฑิก ขณะที่ท่านฟังพระธรรม ท่านบรรลุเป็นพระโสดาบันบุคลล ท่านไม่ได้หลีกเร้นไปที่อื่นเลย ท่านฟัง และไตร่ตรองตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตรงตามความเป็นจริงแทงตลอดในสภาพธรรม รู้แจ้งธรรม จนบรรลุอริยสัจจธรรมในที่สุด
ท่านหลีกเร้นหรือเปล่า?
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่...
มีปกติอยู่ผู้เดียว [ปฐมมิคชาลสูตร]
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่นี่...
จิตวิเวก กับ การสงัดจากหมู่คณะ
"...หลีกเร้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่ขึ้นอยู่กับสภาพจิตเป็นสำคัญ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในป่า โคนไม้ เรือนว่าง แต่จิตเป็นอกุศล เต็มไปด้วยความติดข้องความไม่รู้ ขณะนั้น ไม่ชื่อว่า หลีกเร้น เพราะการหลีกเร้น เป็นการหลีกออกจากอกุศล หรือสงัดจากอกุศลนั่นเอง..."
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ