....เดินทาง.............

 
๐คุณย่า๐
วันที่  27 มี.ค. 2554
หมายเลข  18111
อ่าน  1,319

ครั้งที่ ๑๓๕

ประจำวันอาทิตย์ ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓

" เดินทาง "

ขณะนี้ทุกคนกำลังเดินทางค่ะ ไปไหน? จากโลกนี้แล้ว ไปแน่ๆ ค่ะ ในโลกนี้ก็ (กำลัง) ไป เดี๋ยวกุศลบ้าง เดี๋ยวอกุศลบ้าง แต่พอถึงที่จุติจิตเกิด ไปสู่ที่ๆ ต้องไป บังคับบัญชาไม่ได้เลย เหมือนจากโลกก่อนมาสู่โลกนี้ ......ก็ไม่มีใครบังคับบัญชา

เพราะฉะนั้น ขณะนี้ถ้าเป็นผู้ที่รู้จริงๆ ว่ากำลังเดินทางไหน ทางของอกุศลวันนี้เยอะมาก ทางของกุศลก็กำลังเริ่มมี และทางไหนที่ควรจะสะสม? เพราะ (ควร) เป็นผู้ที่ไม่ประมาท ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ว่า ตราบใดที่ยังไม่รู้แจ้งสภาพธรรม ถึงความเป็นพระโสดาบัน ยังต้องเกิดในอบายภูมิได้

l ll lll llll lll ll l l ll lll llll lll ll l l ll lll llll lll ll l l ll lll llll lll ll ll ll lll llll lll ll l l ll lll llll lll ll l

แต่ว่าผลของกุศลกรรม ทำให้ทุกคนเกิดมาในโลกนี้ แล้วก็มีสัทธา แล้วก็ได้มีการได้ฟังธรรม เพื่อสะสมความเข้าใจต่อไป เพราะทรัพย์สมบัติมหาศาล หรือ รูปร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก็ตามไปไม่ได้เลย แต่ว่าสิ่งที่สะสมอยู่ในจิต ทำให้แต่ละหนึ่งๆ ก็ทำให้เกิดแล้วเป็นบุคคลหนึ่ง

เพราะฉะนั้น บุคคลใหม่จะเป็นคนยังไงดี? ... (จะเป็นคน) โลภมาก โกรธมาก หลงมาก ทุจริตมาก ร้ายกาจมาก หรือว่า เป็นคนดี แล้วเป็นคนที่มีความเข้าใจธรรมด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมาจากกรรมใครก็ช่วยไม่ได้ แต่ละหนึ่งก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าอดีตก็เคยมีมาแล้ว และเป็นกุศล - อกุศล สะสมกันมามากน้อยเท่าไร ไม่มีใครมีปัญญาหยั่งลึกลงไปถึงการสะสม ไม่ต้องถึงชาติก่อนแสนโกฏิกัปป์ ....เพียงแค่เมื่อเช้านี้ หยั่งได้ไหม? อกุศลที่เกิดหลังเห็น หลังได้ยินอย่างรวดเร็วนี้ มากสักแค่ไหน หรือแม้แต่การฟังธรรมแต่ละครั้ง มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นแค่ไหน ก็หยั่งลงไปไม่ถึงใช่ไหมคะเพราะบางทีก็สามารถที่จะเข้าใจ บางทีก็ลืมไปอีกแล้ว และความเข้าใจนี้ระดับไหน?

ระดับที่เป็นเราฟังธรรม เพื่อเราจะได้เข้าใจธรรม เราจะได้รู้ธรรม เราจะได้เก่ง หรือว่าฟังแล้วเข้าใจว่าไม่มีเราเลย เป็นธรรมทั้ง-หมด เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป แม้แต่ขณะที่ฟังก็ยังต่างกัน

เพราะฉะนั้น ก็จะรู้ได้ต่อเมื่อ มีคำถาม หรือ คำพูด ถ้าเป็นคำพูดที่มีความต้องการ " ทำยังไงถึงจะรู้ธรรม " อย่างนี้ ก็คือความไม่เข้าใจความเป็นอนัตตา แล้วฟังอีกนานเท่าไรจะมีความมั่นคงว่าไม่มีเรา แต่มีธรรม ซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัย

โดย... ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 27 มี.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
narong.p
วันที่ 27 มี.ค. 2554

anumotana

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 27 มี.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มกร
วันที่ 28 มี.ค. 2554

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
choonj
วันที่ 28 มี.ค. 2554

....เดินทาง.....ไปตามกรรม โชคดีที่ได้ฟังธรรมะที่ทำให้รู้จัก กรรม กิเลส วิบาก รู้จัก นรก สวรรค์ รู้ว่านี่ทางไปนรก นี่ทางไปสวรรค์ รู้ว่านี่อินทรีกล้า นี่อินทรีอ่อน.... ฯลฯ รู้อย่างนี้แล้วอายเขามั้ยละ เมื่อเดินทางไปแล้ว ไปสู่ภูมิที่เลวกว่าคนไม่รู้....ฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ผิน
วันที่ 29 มี.ค. 2554
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
intira2501
วันที่ 31 มี.ค. 2554

ใครก็ช่วยไม่ได้ แต่ละหนึ่งก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ แต่ก็โชคดีที่ได้ฟังธรรมะที่ทำให้

เข้าใจธรรมะ มากขึ้นขอบพระคุณและขออนุโมทนากุศลจิตทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
สมศรี
วันที่ 1 เม.ย. 2554
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 3 เม.ย. 2554

"......เพราะฉะนั้น บุคคลใหม่จะเป็นคนยังไงดี? ... (จะเป็นคน) โลภมาก โกรธมาก หลงมาก ทุจริตมาก ร้ายกาจมาก หรือว่า เป็นคนดี แล้วเป็นคนที่มีความเข้าใจธรรมด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมาจากกรรมใครก็ช่วยไม่ได้ แต่ละหนึ่งก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าอดีตก็เคยมีมาแล้ว และเป็นกุศล - อกุศล สะสมกันมามากน้อย..."

เอ่อม คุณย่าค่ะ.....ข้อความจากบรรทัดที่ ๓ กับบรรทัดที่ ๔ อ่านแล้วทะแม่งๆ ยังไง

ชอบกลนะคะ เนื้อความไม่ค่อยต่อเนื่องกัน ไม่ทราบท่านอื่นรู้สึกอย่างนี้หรือเปล่าค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
orawan.c
วันที่ 6 เม.ย. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

เรียนความเห็นที่ 9

ตกคำว่า กรรม แก้ไขแล้วนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 12 เม.ย. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ