มาร ๕ [ข้าศึกทั้งปวง...ตอนที่ ๑]
มาร ๕ คือ กิเลสมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร มัจจุมาร และเทวบุตรมาร
มาร ความหมายว่า ทำให้ตาย ขัดขวางไม่ให้ความดีเจริญ ข้าศึกทั้งปวง นี่คือการแปลโดยศัพท์ แต่โดยอรรถที่ละเอียด ควรพิจารณาให้เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของอรรถจริงๆ ว่า โดยนัยของ มาร ๕ ซึ่งได้แก่ กิเลสมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร มัจจุมาร และเทวบุตรมารนั้น แต่ละนัยเป็นความไม่ดี ไม่เจริญอย่างไร เป็นข้าศึกอย่างไร โดยไม่ใช่ยึดการแปลโดยศัพท์ ซึ่งในพระไตรปิฎกได้แสดง มาร ๕ ประเภท ไว้ จะได้กล่าวถึงแต่ละประเภทว่า เพราะเหตุใดจึงเป็น มาร ... ในตอนต่อๆ ไปค่ะ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
...ขออนุโมทนาค่ะ...
ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมโดยละเอียด ความเข้าใจถูกเกี่ยวกับ "มาร" ของเราจะแคบมาก และอาจจะมีการตีความคำว่า มาร ตามความคิดความเห็นที่ผิด-ถูกต่างๆ กันไป แต่ "มาร" ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ทั้งหมดนั้น มีหลายนัย แต่ละนัยก็ลึกซึ้งเกินที่ใครจะคิดได้ถ้าไม่ได้ศึกษา เพราะพระธรรมทั้งหมดมาจากพระปัญญาตรัสรู้ของพระองค์เอง ส่วนสาวก คือ ผู้ฟัง ศึกษา ไตร่ตรอง ให้เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง จนกว่าจะรู้ความจริงว่า "มาร" คืออะไร ขณะไหน เป็นอย่างไร
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ
มีมารตามที่ได้ฟัง ท่านอาจาร์ยสุจินต์บรรยายให้เข้าใจ
ต้องขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทั้งหมด เพื่อเข้าใจ แม้แต่ในเรื่องมาร เมื่อศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ ก็จะค่อยๆ เข้าใจตามความเป็นจริงได้ เพราะแท้ที่จริงแล้ว มาร ไม่ได้อยู่ที่อื่นที่ไกล แต่มีจริงในชีวิตประจำวัน จึงควรอย่างยิ่งที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาต่อไป เพื่อจะได้พ้นจากมารจริงๆ คือ พ้นจากวัฏฏะทั้งสิ้น นั่นเอง เพราะ มาร เมื่อกล่าวโดยรวมแล้ว เป็นวัฏฏะ ครับ
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ...
เพราะ มาร เมื่อกล่าวโดยรวมแล้ว เป็นวัฏฏะ ครับ
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนา อ.คำปั่น เป็นอย่างมาก ค่ะ...