มาร ๕ [อภิสังขารมาร...ตอนที่ ๔]
อภิสังขาร คือ เจตนาเจตสิก
เจตนาที่เกิดขึ้นกระทำกุศลกรรม และอกุศลกรรม ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องเกิดแล้วเกิดอีกในสุคติภูมิบ้าง ในทุคติภูมิบ้าง ไปตามเหตุที่ได้กระทำไว้แล้ว เจตนาจึงเป็นกรรม กรรมที่ได้กระทำไว้แล้วในอดีตอันยาวนาน เป็นเหตุให้ต้องเกิดวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ ไม่สามารถออกจากวัฏฏะได้ ... อภิสังขารมาร
ข้อความบางตอนจากพระสูตร ...
[๔๒๗] คำว่า มาร ย่อมไปตามสัตว์ด้วยอำนาจอภิสังขาร คือกรรมนั้นนั่นแล ความว่า ขันธมาร ธาตุมาร อายตนมาร คติมาร
กรรมนั้นนั่นแล ความว่า ขันธมาร ธาตุมาร อายตนมาร คติมาร อุปบัติมาร ปฏิสนธิมาร ภวมาร สังสารมาร วัฏฏมาร อันมีในปฏิสนธิ ย่อมไปตาม คือตามไป เป็นผู้ติดตามไป ด้วยอำนาจอภิสังขารคือกรรมนั้นนั่นแล.
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่นี่ค่ะ ...
เฉพาะเจตนาเจตสิกดวงเดียว เป็นอภิสังขารในปฏิจจสมุปปาท
สังขารธรรม - สังขารขันธ์ - อภิสังขาร
...ขออนุโมทนาค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เพราะยังมีการกระทำที่เป็นกุศลกรรมบ้าง เป็น อกุศลกรรมบ้าง จึงเป็นเหตุให้มีการเกิดในภพภูมิต่างๆ ตามสมควรแก่กรรมที่ได้กระทำไว้ สังสารวัฏฏ์ก็ยังไม่จบสิ้น ต้องเดินทางในสังสารวัฏฏ์ ไม่พ้นจากทุกข์ต่อไป การอบรมเจริญปัญญา ซึ่งเป็นหนทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เท่านั้น ที่จะเป็นไปเพื่อการดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งจะไม่เป็นเหตุให้มีการเกิดวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ ไม่ต้องมีมารใดๆ อีกต่อไป
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่านครับ...
อภิสังขารมาร เป็นมารที่ปรุงแต่งอย่างยิ่ง ให้มีการกระทำกุศล และ การกระทำอกุศล ที่นับเนื่องไปกับวัฏฏะอยู่เสมอ อภิสังขารมาร เป็นกรรมวัฏฏ์ ซึ่งยังวิปากวัฏฏ์ให้เป็นไปโดยมีปัจจัยจากกิเลสมาร คือ อวิชชาที่ยังไม่ได้ดับ วิปากวัฏฏ์ เริ่มตั้งแต่ขณะปฏิสนธิ ตามด้วยขณะที่เป็นภวังค์ เรื่อยมาจนกระทั่งถึงขณะที่เห็น ขณะที่ได้ยิน ... ขณะที่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ฯลฯ ล้วนเป็นวิปากวัฏฏ์ทั้งสิ้น
วิบากจิตและรูปที่เกิดจากกรรม เป็นผลของอภิสังขารมาร ที่อาศัยปัจจัยต่างๆ ปรุงแต่งให้เกิดขึ้นสั่งสมแล้วในอดีต ทั้งทางฝ่ายกุศลกรรม และ ฝ่ายอกุศลกรรม ไม่ว่าเราจะหนีไปในอากาศ ไปในถ้ำ ไปในน้ำ ไปบนบก หรือที่ไหนๆ ก็ตาม อภิสังขารมาร คือ กรรมดี - กรรมชั่วของผู้นั้นที่สั่งสมไว้ จักติดตามไปให้ผลตามควรแก่เหตุที่ได้กระทำแล้วนั่นเอง
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา และ คุณ khampan.a ครับ
"อภิสังขาร คือ เจตนาเจตสิก"
"อภิสังขารมาร เป็นกรรมวัฏฏ์ ซึ่งยังวิปากวัฏฏ์ให้เป็นไปโดยมีปัจจัยจากกิเลสมาร คือ อวิชชาที่ยังไม่ได้ดับ"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ