ขอเรียนถามเรื่องของจิต - ชวนจิต ๗ ขณะ - กุศลจิต - อกุศลจิต

 
พุทธรักษา
วันที่  10 เม.ย. 2554
หมายเลข  18172
อ่าน  2,000

๑. หาก ชวนจิต ๗ ขณะ ทางปัญจทวารวิถีจิต เป็น ชาติ-อกุศล ชวนจิต ๗ ขณะ ทางมโนทวารวิถีจิต ต้องเป็น ชาติ-อกุศล เสมอไปหรือไม่-อย่างไร.?

๒. ปกติในชีวิตประจำวัน ขณะที่ระลึกตรงลักษณะของ กุศลจิต หรือ อกุศลจิต ขณะนั้น เป็นการรู้อารมณ์ทางมโนทวาร ใช่หรือไม่.?

ขอบพระคุณค่ะ.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

๑. หาก ชวนจิต ๗ ขณะ ทางปัญจทวารวิถีจิต เป็น ชาติ-อกุศล ชวนจิต ๗ ขณะ ทางมโนทวารวิถีจิต ต้องเป็น ชาติ-อกุศล เสมอไปหรือไม่-อย่างไร.?

สำหรับปัญจทวารวิถีจิตมีรูปเป็นอารมณ์ วาระแรก มโนทวารวิถีจิตเกิดต่อมีรูปทางปัญจทวารเป็นอารมณ์เช่นกันด้วยความรวดเร็วของวิถีจิตจากทางปัญจทวารวิถีไปมโนทวารวิถี ทำให้ชวนจิตทางปัญจทวารเมื่อเป็นอกุศล ชวนจิตทางมโนทวารที่รับต่อก็ยังเป็นอกุศลด้วย เพราะความรวดเร็วของการสืบต่อของปัญจทวารวิถีไปมโนทวารและมีรูปเป็นอารมณ์ทางปัญจทวาร ซึ่งในส่วนของความรวดเร็วของวิถีจิตจากทางปัญจทวารวิถีไปมโนทวารวิถีนั้น ก็ได้แสดงไว้ในพระไตรปิฎกดังนี้ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่...

ความรวดเร็วจากปัญจทวารไปมโนทวาร [ธรรมสังคณี]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2554

๒. ปกติในชีวิตประจำวัน ขณะที่ระลึกตรงลักษณะของ กุศลจิต หรือ อกุศลจิต ขณะนั้น เป็นการรู้อารมณ์ทางมโนทวาร ใช่หรือไม่.?

ปกติในชีวิตประจำวัน กุศลจิตและอกุศลจิตสามารถเกิดได้ทั้งทางปัญจทวารวิถีและทางมโนทวารวิถี เช่น ขณะที่เพียงเห็นสิ่งที่ปรากฎทางตา (ปัญจทวารวิถี) กุศลหรือกุศลก็สามารถเกิดได้ หรือ ขณะที่คิดนึก (มโนทวารวิถี) ขณะนั้นก็สามารถเป็นกุศลหรือกุศลจิตได้

ส่วนในกรณีคำถามที่ว่า ขณะที่ระลึกตรงลักษณะของ กุศลจิต หรือ อกุศลจิต ขณะนั้น เป็นการรู้อารมณ์ทางมโนทวาร ใช่หรือไม่. เมื่อใช้คำว่าระลึกตรงลักษณะของกุศลจิตหรือกุศลจิต ต้องเป็นสติปัฏฐาน ขณะนั้นมีจิตเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐาน (กุศลจิตหรืออกุศลจิต) ซึ่งทางปัญจทวารจะมีรูปเป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นสติที่ระลึกตรงลักษณะของจิต ที่เป็นกุศลจิตหรือกุศลจิต ขณะนั้นต้องเป็นไปทางมโนทวารวิถี เพราะปัญจทวารไม่สามารถมีนามธรรม ที่เป็นจิตเป็นอารมณ์ได้ครับ แต่ทางมโนทวาร สามารถมีนามธรรมเป็นอารมณ์ได้ นั่นก็คืออกุศลจิตและกุศลจิต ขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกรู้ก็คือขณะที่เป็น ชวนะทางมโนทวารที่มีกุศลจิตและอกุศลจิตเป็นอารมณ์ครับ

ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พุทธรักษา
วันที่ 11 เม.ย. 2554

ขอเรียนถามเพิ่มเติมดังนี้นะคะ.

"ชวนจิต-ทางปัญจทวาร" ทำกิจ "สั่งสม-สันดาน" ได้ ทั้งกุศล และ อกุศลตามการสะสมของแต่ละบุคคล.

แต่...หาก ชวนจิต-ทางปัญจทวาร เป็น อกุศล กุศลธรรม ไม่สามารถเกิดขึ้น "ตัดกระแส-อกุศลธรรม" ทางปัญจทวาร ได้เลย ชวนจิต-ทางปัญจทวาร จึงสะสมอกุศล-ตามการสะสม เสมอเลยใช่หรือไม่คะ.?

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ไหมคะ ว่า การตัดกระแสของอกุศลธรรม (จิต-เจตสิก) ที่เกิดเป็นพื้นในชีวิตประจำวันเกิดขึ้นได้ ทางมโนทวาร เท่านั้นถูกต้องหรือไม่คะ.? คือ เกิดขึ้นได้เพราะ "สติ" ขั้นทาน-ขั้นศีล หรือ ทาน ศีล ภาวนา ที่เกิดร่วมกับ "สติ-สัมปชัญญะ" อย่างใดอย่างหนึ่ง.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2554

เรียนความเห็นที่ 4

เรียนอย่างนี้ครับ ปัญจทวารวิถีจิตสามารถเกิดได้ทั้งกุศลและอกุศล ซึ่งขึ้นอยู่กับการสะสมมาของแต่ละบุคคล ขณะที่เห็น ได้ยิน ...รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสในสิ่งที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม ก็สามารถเกิดกุศลหรือกุศลได้ครับ ตามการสะสมของบุคคลนั้น

ที่สำคัญทางปัญจทวารสามารถเกิดกุศลจิตที่ตัดกระแสอกุศลคือเกิดกุศลในขณะนั้นได้ หากเป็นผู้อบรม สะสมมาดีพอ แม้การเจริญสติปัฏฐานก็สามารถเกิดทางปัญจทวารได้ อินทรียสังวร การสำรวมทางตา หู........กายเกิดขึ้นได้คือมีสติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรม ขณะนั้นได้ในทางปัญจทวารครับ รวมทั้งสติปัฏฐานก็สามารถเกิดได้ทางมโนทวารด้วย สติสามารถเกิดระลึกรู้ลักษณะที่เป็นนามธรรมหรือรูปธรรมก็ได้ครับ เพราะฉะนั้นสติเป็นเครื่องกั้นกระแสคือกุศลธรรมได้ ทั้งทางปัญจทวารและทางมโนทวารครับ

สรุปดังนี้ ทางปัญจทวารวิถี สามารถเกิดกุศลขั้น ทาน ศีล และภาวนาที่เป็นสติปัฏฐานได้ คือระลึกลักษณะของสภาพได้ อันเป็นการตัดกระแสอกุศลธรรมในขณะนั้น แต่ไม่สามารถถึงระดับวิปัสสนาญาณทางปัญจทวารได้ เพราะวิปัสสนาญาณเป็นการรู้ทั้งนามธรรมและรูปธรรม แต่ชวนจิตทางปัญจทวาร มีรูปเป็นอารมณ์ ไม่มีนามธรรมเป็นอารมณ์ครับ

ทางมโนทวารวิถี กุศลสามารถเกิดได้ทั้งขั้น ทาน ศีลและภาวนา รวมทั้งวิปัสสนาญาณ การบรรลุมรรคผลด้วยครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎกครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2554

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 285

เรื่อง สติเกิดที่เป็นสังวรได้ในทางปัญจทวาร

ส่วนชื่อว่า สังวร เหล่านี้ คือ จักขุสังวร (สำรวมทางตา) โสตสังวร ฆานสังวร ชิวหาสังวร ปสาทกายสังวร โจปนกายสังวร วาจาสังวร มโนสังวร. บรรดาสังวรเหล่านั้น ว่าโดยอรรถ ได้แก่ธรรม ๕ เหล่านี้ คือ ศีล สติ ญาณ ขันติ วิริยะ ในบรรดาธรรมทั้ง ๕ แม้เหล่านั้น แม้ธรรมอย่างหนึ่ง ย่อมไม่เกิดในจิตทั้งหลาย มีโวฏฐัพพนจิตเป็นที่สุดในปัญจทวาร ธรรมนั้นย่อมเกิดในขณะแห่งชวนจิตเท่านั้น แม้เกิดในชวนจิต ท่านก็เรียกว่า สังวรในปัญจทวาร.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2554

[เล่มที่ 78] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 638

จริงอยู่ ชวนะ (ของปัญจทวาร) ย่อมไม่แล่นไป (เสพอารมณ์) เพราะปรารภนามและโคตร ย่อมไม่แล่นไปเพราะปรารภบัญญัติอันมีกสิณเป็นต้น ย่อมไม่เป็นไปด้วยสามารถแห่งวิปัสสนาอันมีไตรลักษณ์เป็นอารมณ์ ย่อมไม่เป็นไปด้วยสามารถแห่งวิปัสสนาอันมีกำลังคือวุฏฐานคามินี ย่อมไม่แล่นไปเพราะปรารภรูปและอรูปธรรม ย่อมไม่แล่นไปสู่พระนิพพาน. อนึ่ง ปฏิสัมภิทาญาณย่อมไม่เกิดด้วยชวนะ (ในปัญจทวาร) นั้น อภิญญาญาณ สาวกปารมีญาณปัจเจกโพธิญาณ สัพพัญญุตญาณ ก็ย่อมไม่เกิดด้วยชวนะนั้น.แต่ว่า ธรรมมีประเภทต่างๆ แม้ทั้งหมด ย่อมมีได้ในชวนะทางมโนทวารเท่านั้น.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พุทธรักษา
วันที่ 12 เม.ย. 2554

จากข้อความ ในความเห็นที่ 2

" ......เมื่อใช้คำว่าระลึกตรงลักษณะของกุศล

จิตหรือกุศลจิต ต้องเป็นสติปัฏฐาน ขณะนั้นมีจิตเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐาน (กุศลจิตหรืออกุศลจิต) ซึ่งทางปัญจทวารจะมีรูปเป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นสติที่ระลึกตรงลักษณะของจิต ที่เป็นกุศลจิตหรือกุศลจิต ขณะนั้นต้องเป็นไปทางมโนทวารวิถี เพราะปัญจทวารไม่สามารถมีนามธรรม ที่เป็นจิตเป็นอารมณ์ได้ครับ....." ยังขัดแย้งกับความเห็นที่ 5 ที่ว่า

"....สรุปดังนี้ครับ ทางปัญจทวารวิถี สามารถเกิดกุศลขั้น ทาน ศีล และภาวนาที่เป็นสติปัฏฐานได้ คือระลึกลักษณะของสภาพได้ อันเป็นการตัดกระแสอกุศลธรรมในขณะนั้น..".

ขอให้คิดว่าเป็นการสนทนาธรรมกัน นะคะคืออย่างนี้ค่ะ "โดยส่วนตัว"...ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกต้องมั๊ย ตามนี้...

การตัดกระแสของอกุศลธรรม-ทางปัญจทวารเพื่อการขัดเกลากิเลส ในชีวิตประจำวัน ของแต่ละบุคคล นั้นเกิดได้ทาง "ปัญจทวาร" ตรง ชวนวิถีจิตเพราะเหตุว่า ชวนวิถีจิต ๗ ขณะนั้น เป็น "กุศลจิต" ขั้นทาน หรือศีล (ศีลสังวร) มี โสภณเจตสิก เช่น "สติเจตสิก" เป็นต้น และ กุศลจิตขณะนั้น เกิดเพราะปัจจัย คือ การสะสมกุศลจิต-ในอดีตที่ผ่านมา

ส่วน การตัดกระแสของอกุศลธรรม-ทางมโนทวาร ก็โดยนัยเดียวกัน.

แต่ขณะที่สติปัฏฐานเกิดนั้น ควรจะเป็นหลังจาก "ความเข้าใจพระธรรม"เกิดขึ้นหลังจากการพิจารณา "เสียงพระธรรม" ที่ "ได้ยินแล้ว" ทางมโนทวาร-วาระหลังๆ เกิดตรง "ชวนวิถีจิต-ทางมโนทวาร"

จึงขอเรียนถามเพิ่มเติม ว่า ถ้า "สติปัฏฐาน เกิดได้ทาง "ปัญจทวาร"สติปัฏฐานขณะนั้น เกิดตรง วิถีจิตขณะไหน-ทางปัญจทวารในเมื่อ ชวนวิถีจิต-ทางปัญจทวาร เกิดขึ้น-เป็นกุศลชวนะ หรือ อกุศลชวนะตาม "การสะสม-ของแต่ละบุคคล"หลังจากวิถีจิตทางปัญจทวาร เกิด-ดับ-สืบต่อ-ตามลำดับ-ด้วยดีจนถึง โวฏฐัพพนจิต.

ขออภัยด้วยนะคะ ที่ถามมาก ในเรื่องที่ยากมาก ลึกลับมาก...แต่ ใกล้ตัวมาก * * * และ คำที่อธิบาย-ทบทวนความเข้าใจของข้าพเจ้า ซึ่ง "ความเห็นส่วนตัว" นั้นเป็นเพียง "ความเห็น-ซึ่งอาจจะผิด" และค่อนข้างเยิ่นเย้อพอสมควรถ้าผิด ก็ต้องขออภัย และ ขอคำแนะนำที่ถูกต้องจากที่นี่.

ปล. ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาใน"กุศลวิริยะ" ของคุณผเดิม ที่กรุณาสละเวลาค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 12 เม.ย. 2554

ขณะที่กุศลจิตเกิด ชวนจิตเกิดทางปัญจทวารเป็นกุศล ทางมโนทวารก็ต้องเป็นกุศลด้วย กุศล หรือ อกุศลที่เกิดขึ้นสะสมทั้งทางปัญจทวารและทางมโนทวารเสมอค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
paderm
วันที่ 12 เม.ย. 2554

เรียนความคิดเห็นที่ 8 จากข้อความที่ยกมาที่ว่า

" ......เมื่อใช้คำว่าระลึกตรงลักษณะของกุศล จิตหรืออกุศลจิต ต้องเป็นสติปัฏฐาน ขณะนั้นมีจิตเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐาน (กุศลจิตหรืออกุศลจิต) ซึ่งทางปัญจทวารจะมีรูปเป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นสติที่ระลึกตรงลักษณะของจิต ที่เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต ขณะนั้นต้องเป็นไปทางมโนทวารวิถี เพราะปัญจทวารไม่สามารถมีนามธรรม ที่เป็นจิตเป็นอารมณ์ได้ครับ....."ยังขัดแย้งกับความเห็นที่ ๕ ที่ว่า"....สรุปดังนี้ครับ ทางปัญจทวารวิถี สามารถเกิดกุศลขั้น ทาน ศีล และภาวนาที่เป็นสติปัฏฐานได้ คือระลึกลักษณะของสภาพได้ อันเป็นการตัดกระแสอกุศลธรรมในขณะนั้น.."

อธิบายดังนี้ครับ ข้อความทั้งสองตอนไมได้ขัดแย้งกันหรอกครับ แต่กำลังอธิบายว่าทางปัญจทวารมีรูปเป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้น ชวนวิถีจิตทางปัญจทวารมีรูปเป็นอารมณ์ด้วย ดังนั้นขณะที่สติปัฏฐานเกิด (ชวนจิตทางปัญจทวาร) ก็ต้องระลึกเป็นไปในรูป จะไม่ระลึกเป็นไปในนามธรรมครับ ซึ่งผมได้อธิบายว่า ถ้าระลึกรู้นามธรรม (กุศลจิตหรืออกุศลจิต) สติปัฏฐานจะเกิดทางปัญจทวารระลึกรู้นามธรรมไม่ได้ เพราะมีรูปเป็นอารมณ์เท่านั้น ทางปัญจทวาร การระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมที่เป็นกุศลหรืออกุศล ต้องระลึกทางมโนทวารเท่านั้นครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าทางปัญจทวารสติปัฏฐานจะเกิดไม่ได้ครับ แต่เกิดได้โดยการระลึกรูปเป็นอารมณ์เพราะขณะนั้น ชวนจิตทางปัญจทวารมีรูปเป็นอารมณ์ที่ยังไมไ่ด้ดับไปครับ ส่วนทางมโนทวาร สติปัฏฐานสามารถเกิดระลึกได้ทั้งนามธรรมและรูปธรรมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
paderm
วันที่ 12 เม.ย. 2554

ส่วนคำถามของความเห็นที่ 8 ที่ถามต่อว่า

แต่ขณะที่สติปัฏฐานเกิดนั้น ควรจะเป็นหลังจาก "ความเข้าใจพระธรรม"เกิดขึ้นหลังจากการพิจารณา "เสียงพระธรรม" ที่ "ได้ยินแล้ว" ทางมโนทวาร-วาระหลังๆ เกิดตรง "ชวนวิถีจิต-ทางมโนทวาร" จึงขอเรียนถามเพิ่มเติม ว่า ถ้า "สติปัฏฐาน เกิดได้ทาง "ปัญจทวาร" สติปัฏฐานขณะนั้น เกิดตรง วิถีจิตขณะไหน-ทางปัญจทวารในเมื่อ ชวนวิถีจิต-ทางปัญจทวาร เกิดขึ้น-เป็นกุศลชวนะ หรือ อกุศลชวนะตาม "การสะสม-ของแต่ละบุคคล"หลังจากวิถีจิตทางปัญจทวาร เกิด-ดับ-สืบต่อ-ตามลำดับ-ด้วยดีจนถึง โวฏฐัพพนจิต.

ขออธิบายลำดับเบื้องต้นก่อนครับ กุศลหรือกุศลเกิดที่ชวนจิต ชวนจิตมีได้ทั้งทางปัญจทวารและมโนทวาร สติปัฏฐานเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา สามารถเกิดได้ทั้ง 2 ทวาร เพราะฉะนั้น ผู้ที่สะสมมามาก สะสมความเข้าใจการเจริญสติปัฏฐานมามาก เมื่อสะสมมามาก ชวนจิตทางปัญจทวารก็สามารถเป็นกุศลประกอบด้วยปัญญาคือสติปัฏฐานเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรมได้ในขณะนั้น สติปัฏฐานมีปรมัตถธรรมเป็นอามรณ์ เพราะฉะนั้นรูปธรรมมีจริงเป็นธรรม ชวนจิตทางปัญจทวารจึงสามารถเกิดรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรมที่ยังไม่ดับไปครับ ความเข้าใจพระธรรมที่สะสมมามากแล้ว เมื่อปัญจทวารวิถีเกิดขึ้น มีรูปเป็นอารมณ์ สติปัฏฐานก็สามารถเกิดระลึกรู้ได้ครับในลักษณะของรูปธรรม เพราะฉะนั้นปัญญาจึงไม่จำกัดที่จะเกิดทางมโนทวารเท่านั้น แต่สามารถเกิดได้ทางปัญจทวารครับ ซึ่งผมจะขอยกพระไตรปิฏกให้อ่านอีกครั้งในเรื่องของอินทรียสังวร (สติปัฏฐาน) ที่มีปัญญา (ญาณ) เกิดได้ในทางปัญจทวาร อันแสดงให้เห็นว่าสติปัฏฐานสามารถเกิดได้ทางปัญจทวารครับ เพราะระลึกรู้ลักษณะที่เป็นรูปธรรมได้ครับ ซึ่งอินทรียสังวร การสังวรทางตา เป็นต้น ก็คือขณะที่สติปัฏฐานเกิดนั่นเองครับ ลองอ่านดูนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
paderm
วันที่ 12 เม.ย. 2554

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 285

เรื่อง สติเกิดที่เป็นสังวร (สติปัฏฐาน) ได้ในทางปัญจทวาร

ส่วนชื่อว่า สังวร ๘ เหล่านี้ คือ จักขุสังวร (สำรวมทางตา) โสตสังวร ฆานสังวร ชิวหาสังวร ปสาทกายสังวร โจปนกายสังวร วาจาสังวร มโนสังวร. บรรดาสังวรเหล่านั้น ว่าโดยอรรถ ได้แก่ธรรม ๕ เหล่านี้ คือ ศีล สติ ญาณ ขันติ วิริยะ ในบรรดาธรรมทั้ง ๕ แม้เหล่านั้น แม้ธรรมอย่างหนึ่ง ย่อมไม่เกิดในจิตทั้งหลาย มีโวฏฐัพพนจิตเป็นที่สุดในปัญจทวาร ธรรมนั้นย่อมเกิดในขณะแห่งชวนจิตเท่านั้น แม้เกิดในชวนจิต ท่านก็เรียกว่า สังวรในปัญจทวาร.

จากข้อความในพระไตรปิฎกนะครับที่เป็นการสังวรทางตา..เป็นต้น อันเป็นสติปัฏฐานที่มีสติและปัญญา (ญาณ) เกิดร่วมด้วย เกิดที่ชวนจิต จะไม่เกิดที่ จิตอื่น เมื่อเกิดที่ชวนจิตก็สามารถเกิดทางปัญจทวารได้ ซึ่งท่านก็เรียกว่า สังวรในปัญจทวาร จะเห็นได้ว่าปัญญาสามารถเกิดขึ้นได้แม้ทางปัญจทวาร ไม่ได้จำกัดแค่กุศลขั้นทานและศีลครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
พุทธรักษา
วันที่ 12 เม.ย. 2554

คห. ที่ 9-10-11-12 เป็นคำอธิบายที่ชัดเจนมากค่ะต้องขออภัยจริงๆ ที่อ่านไม่ละเอียด และ เข้าใจผิด โดนอวิชชาบดบัง.

พระธรรมที่ทรงตรัสรู้...ยากที่จะเข้าถึงได้จริงๆ ยิ่งศึกษา ก็ยิ่งรู้สึกว่ายังไม่รู้อะไรอีกมากเหลือเกินถ้าไม่ได้สนทนากัน โอกาสที่จะเข้าใจคลาดเคลื่อนก็มีมากจริงๆ แต่จะพยายามศึกษาต่อไปค่ะ.

ขอขอบพระคุณ และ อนุโมทนา พี่วรรณี และ คุณผเดิมที่เมตตา-กรุณาให้ความรู้ขออนุโมทนาทีมงานเวปไซด์บ้านธัมมะด้วยค่ะ ที่เปิดโอกาสให้มีการสนทนาธรรม.

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
paderm
วันที่ 12 เม.ย. 2554

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษาด้วยครับที่มั่นคงในหนทางนี้ และเป็นผู้ขยันในการเจริญอบรมปัญญา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
khampan.a
วันที่ 12 เม.ย. 2554

เป็นการถาม - ตอบ ที่เป็นไปเพื่อความเข้าใจสภาพธรรม ตามความเป็นจริง อย่างยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
ประวิทย์พลีไพร
วันที่ 27 เม.ย. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ