พุทธพจน์

 
yoonsri
วันที่  18 เม.ย. 2554
หมายเลข  18224
อ่าน  2,421

"เราตถาคตตั้งศาสนาไว้ มิได้ประสงค์ให้ผู้ใดผู้หนึ่ง แสวงหาประโยชน์อย่างอื่น ตั้งไว้เพื่อให้บุคคลบำเพ็ญภาวนาระงับกิเลสตัณหาเท่านั้น"


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 เม.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเพื่อประโยชน์กับหมู่สัตว์คือเกิดปัญญา เข้าใจความจริงของสภาพธรรมอันเป็นไปเพื่อดับกิเลสจนหมดสิ้น นี่คือประโยชน์ และจุดประสงค์อันถูกต้องของพระธรรมและผู้ศึกษาพระธรรม

เพราะฉะนั้นจึงต้องเริ่มจากความเป็นผู้ตรง ตรงด้วยจุดประสงค์ที่ถูกต้องว่าศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร เพื่อที่จะได้หรือเพื่อที่จะละ ละกิเลส ละความไม่รู้อันเนื่องมาจากการศึกษาพระธรรม

ประโยชน์ จึงไม่ใช่เพื่อลาภ สักการะหรือเพื่อได้สิ่งได้สิ่งหนึ่ง เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนให้เห็น ถึงความจริงของสิ่งเหล่านั้นว่านำมาซึ่งความทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ผู้ศึกษาพระธรรมจึงควรพิจารณาด้วยปัญญา การกระทำทางกายและวาจาจึงต้องตรง กับใจ นี่คือความเป็นผู้ตรงตั้งแต่ต้นในการศึกษาพระธรรม

ความเป็นผู้ตรงจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดับกิเลสด้วยอันเป็นสัจจะบารมี หากไม่เป็นผู้ที่ตรงแล้วก็ไม่สามารถึงฝั่งคือพระนิพพานอันเป็นการดับกิเลสได้เลยครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

แนวปฏิบัติพรหมจรรย์ [ปฐมนกุหนาสูตร]

การหลอกลวง [กุหนาสูตร]

[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒- หน้าที่ 280

"ก็ข้อปฏิบัติอันเข้าไปอาศัยลาภ เป็นอย่างอื่น, ข้อปฏิบัติอันยังสัตว์ให้ถึงพระนิพพาน เป็นอย่างอื่น (คนละอย่าง) . ภิกษุผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ทราบเนื้อความนั้นอย่างนี้แล้ว ไม่พึงเพลิดเพลิน สักการะ พึงตามเจริญวิเวก."

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 18 เม.ย. 2554

การศึกษาธรรมสำคัญคือน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่พระองค์ทรงแสดง ด้วยความเคารพตามกำลังปัญญา จึงชื่อว่าได้ประโยชน์จากการศึกษาพระธรรม ไม่ใช่ว่า จะต้องเป็นผู้พยายามฟังมาก รู้ให้มากในเรื่องราวของธรรมที่พระองค์ทรแสดง ซึ่ง พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงว่า เธออย่าติดตามเราเพราะเหตุคือการได้ฟังธรรมประการ ต่างๆ แต่เธอจงติดตามเราด้วยการฟังเรื่องราวที่เป็นไปเพื่อน้อมปฏิบัติตามคือเรื่อง มักน้อย สันโดษขัดเกลา ไม่คลุกคลี เรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา นี่คือประโยชน์ของธรรมคือ น้อมประพฤติปฏิบัติตามครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ....ติดตามพระองค์ด้วยน้อมปฏิบัติตาม [มหาสุญญตสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 18 เม.ย. 2554

พระธรรมของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงจึงเป็นไปเพื่อการสำรวมและการละกิเลสประการ ต่างๆ มีตัณหาและอวิชชา เป็นต้น แต่จะละไมได้เลย ถ้าไม่มีปัญญา เพราะฉะนั้น พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงประโยชน์ คือ ความถึงพร้อมด้วยปัญญาคือวิชชาและการ หลุดพ้นจากิเลสคือวิมุตติ ดังที่พระพุทธองค์แสดงไว้ให้กับพราหมณ์ผู้หนึ่งฟังว่า อานิสงส์สูงสุดที่พระองค์ทรแสดงพระธรรมเพื่ออะไร

เชิญคลิกอ่านครับ...

ตถาคตมีวิชชาและวิมุตติเป็นผลานิสงส์ [กุณฑลิยสูตร]

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 18 เม.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า (พระพุทธพจน์) เป็นพระธรรมคำสอนที่เกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์ ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขย แสนกัปป์ ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก และเป็นการที่ยากมากกับที่จะได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง

เพราะฉะนั้น การได้มีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ที่สืบทอดมาจนถึงสมัยปัจจุบันนี้ จึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต และจะต้องเป็นผู้สะสมศรัทธาเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรมมาแล้ว จึงมีโอกาสได้ฟัง ได้สะสมปัญญาต่อไป

พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ฟังและน้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตามอย่างแท้จริง เป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งในชาตินี้และในชาติต่อๆ ไป พร้อมทั้งยังเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุถึงประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด สิ้นทุกข์ในวัฏฏะ ด้วย แต่จะไม่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษา หรือ ศึกษาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ถูกต้อง เช่นศึกษาเพื่อลาภ สักการะ สรรเสริญ เป็นต้น

เพราะพระธรรม ทั้งหมดเป็นไปเพื่อละกิเลสไม่ใช่เป็นไปเพื่อเพิ่มกิเลส พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจ เห็นถูก เป็นไปเพื่อสร่างจากความเมา คือ กิเลสประการต่างๆ มี โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น

ที่สำคัญที่สุดจึงต้องเริ่มสะสมปัญญา จากการฟังการศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวันตั้งแต่ในขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต เพราะเมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้ตามความเป็นจริงว่าในชีวิตนี้ ไม่มีอะไรที่จะมีค่าเท่ากับการได้เข้าใจพระธรรมจริงๆ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณผเดิมและทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 18 เม.ย. 2554

ศาสนา คือคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนให้ทำดี ละชั่ว อบรมจิตให้ผ่องใส คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เพื่อการเลี้ยงชีพ ไม่ใช่เพื่อลาภ สักการะ ฯลฯ เพื่อ ขัดเกลากิเลสทางกาย ทางวาจา ทางใจ จนกว่าจะดับกิเลสหมดจริงๆ ไม่เกิดอีกเลยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 18 เม.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jans
วันที่ 18 เม.ย. 2554

"พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ฟังและน้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตามอย่างแท้จริง เป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งในชาตินี้ และ ในชาติต่อๆ ไป พร้อมทั้งยังเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุถึงประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การรู้แจ้ง อริยสัจจธรรม ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด สิ้นทุกข์ในวัฏฏะ ด้วย" ขอบคุณและขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chaiyut
วันที่ 19 เม.ย. 2554

พระพุทธพจน์ เป็นคำกล่าวเพื่อสั่งสอนให้สัตว์โลกเกิดปัญญาดับกิเลส เป็นคำกล่าวอันประเสริฐสูงสุด หลั่งไหลมาจากพระโอษฐ์ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ เราปุถุชนคนธรรมดาจะกล่าวอย่างไร ก็ไม่ใช่พระพุทธพจน์ เพราะเราเป็นแต่เพียงสาวก กล่าวสาวกภาษิต ซึ่งต้องไม่ขัดแย้งกับพระพุทธพจน์เช่นกัน สาวกศึกษาพระพุทธพจน์เพื่อความเข้าใจถูกเพื่อน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่ทรงแสดงไว้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Sensory
วันที่ 19 เม.ย. 2554

สาธุ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ